กรมคุกสั่งเด้งผู้คุมเหน่ง โยงดับ “ผกก.โจ้” ตั้ง กก. เร่งสอบข้อเท็จจริง “ทวี” ให้แพร่วงจรปิดอันเต็ม

กรมคุกสั่งเด้งผู้คุมเหน่ง

เด้งแล้ว กรมคุกสั่งเด้งผู้คุมเหน่ง หัวหน้าแดน 7 คลองเปรม คู่กรณี ผกก.โจ้ ขณะที่โทรโข่งกรมคุกเผย อธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

ผบ. เรือนจำอยู่ระหว่างผลัดเปลี่ยนตำแหน่งทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่อง ปัดผู้คุมเหน่งแบ็กดีและยังไม่เห็นรายงานเคยถูกผู้ต้องขังรายอื่นร้องเรียนมาก่อน ลั่นในฐานะรุ่นพี่ นรต.จะไม่ให้ผู้กำกับโจ้ตายฟรีแน่นอน ด้าน “ทวี” ลั่น กรมราชทัณฑ์ควรนำกล้องวงจรปิดตัวเต็มที่ไม่ผ่านการตัดต่อมาเผยแพร่ พร้อมสั่งสอบประเด็นคนราชทัณฑ์โทร.คุยครอบครัวผู้กำกับโจ้ให้ถอนแจ้งความคดีทำร้ายร่างกาย ขณะที่น้องสาว ผกก.โจ้ เผยรู้สึกมั่นใจมากขึ้นหลังเข้าพบ รมว.ยุติธรรม ส่วนร่างผู้กำกับโจ้ถูกนำตั้งศพสวด 7 วัน ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน หลังเสร็จสิ้นผลชันสูตรรอบ 2 ที่นิติเวช รพ.จุฬาฯ ญาติอยู่ระหว่างรอผลโดยยังไม่มีกำหนดเผาจนกว่าจะได้คืนความยุติธรรม กรมคุกสั่งเด้งผู้คุมเหน่ง

กรณีการเสียชีวิตปริศนาของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องหาในเรือนจำกลางคลองเปรม คดีใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พบร่าง ผกก.โจ้ ใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์แจงไม่มีใครทำร้าย ส่งศพชันสูตรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ระบุสาเหตุการตายเพราะขาดอากาศหายใจจากการทำร้ายตัวเอง ญาติยังติดใจการตายส่งศพชันสูตรซ้ำที่ รพ.จุฬาฯ ตามที่เสนอข่าวแล้ว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 มี.ค.68 ที่ตึกภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย น.ส.จันทา อุทธนผล แม่ “ผู้กำกับโจ้” และญาติพร้อมด้วยนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ มาติดตามการชันสูตรศพรอบ 2 หลังนำร่างไปชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ก่อนการผ่าชันสูตร จนท.ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พาแม่และญาติ รวมถึงทนายความ ไปที่ห้องประชุมนิติเวชศาสตร์ เพื่อพบแพทย์และให้ข้อมูลในประเด็นที่ยังสงสัย กรมคุกสั่งเด้งผู้คุมเหน่ง

จากนั้นเวลา 11.20 น. น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ อายุ 28 ปี ภรรยา ผกก.โจ้ นำเครื่องแต่งกายมาส่งให้เจ้าหน้าที่นิติเวชเพื่อเปลี่ยนใส่ให้ ผกก.โจ้ เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว และกางเกงสแล็กสีดำ มีรายงานว่า ศพ ผกก.โจ้จะออกจากนิติเวช รพ.จุฬาฯไปยังวัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน ในช่วงบ่ายจะมีพิธีรดน้ำศพในช่วงเวลา 16.00 น. และจะมีพิธีสวด อภิธรรมในช่วงเวลา 18.30 น. การสวดอภิธรรมจะมีตลอด 7 คืน จนถึงวันที่ 16 มี.ค. เบื้องต้นครอบครัวจะเก็บศพไว้และยังไม่ทำพิธีเผาจนกว่าจะได้รับความ ยุติธรรม กรมคุกสั่งเด้งผู้คุมเหน่ง

กระทั่งเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่นิติเวชเคลื่อนศพ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ออกจากอาคาร มีพระสงฆ์ 1 รูป นำและทำพิธี มีน้องชายผู้กำกับโจ้จุดธูปอัญเชิญดวงวิญญาณนำศพขึ้นรถตู้ สีขาว ทะเบียน ฮภ 559 กรุงเทพมหานคร ไปบำเพ็ญกุศลที่ศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ส่วน น.ส.จันทา อุทธนผล มารดาและ น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ ภรรยา “ผู้กำกับโจ้” และนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความยังพูดคุยกับแพทย์ที่ชันสูตรรอบ 2 กรมคุกสั่งเด้งผู้คุมเหน่ง

ต่อมานายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ ผกก.โจ้ เปิดเผยว่า ตอนนี้นิติเวช รพ.จุฬาฯจะส่งผลเลือดและชิ้นเนื้อไปตรวจที่สถาบันพยาธิวิทยาและสถาบันพิษวิทยาอีกทีและจะทำรายงานแจ้งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นอีกครั้ง คาดจะรู้ผลประมาณ 2-3 อาทิตย์ เบื้องต้นครอบครัวและทนายความพูดคุยกับแพทย์เรียบร้อยแล้ว หลังประกอบพิธีทางศาสนาเสร็จจะไม่นำร่างชันสูตรที่ใดต่อ ญาติจะเก็บร่างไว้ก่อน ส่วนผลชันสูตรจะคล้ายคลึงกับผลชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมหรือไม่ ยังพูดอะไรไม่ได้ วันนี้ครอบครัวมาฟังข้อมูลเพิ่มเติม แพทย์อธิบายว่าจะตรวจอย่างไร รวมถึงก่อนหน้านี้มีการตรวจอย่างไรมาแล้วบ้าง แพทย์จะดูรายละเอียดหลังจากนี้ต่อ

นายวีรศักดิ์กล่าวอีกว่า ในประเด็นที่กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงเมื่อค่ำวันที่ 9 มี.ค. ครอบครัวและตนเห็นแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด ส่วนประเด็นที่กรมราชทัณฑ์ระบุว่า อดีต ผกก.โจ้ ป่วยจิตเวชตามเอกสารชี้แจงนั้น เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ญาติยังเข้าเยี่ยมและพูดคุยกันตลอดด้วยดี วันเกิดเหตุมีแฟนสาวและเพื่อนที่เป็นตำรวจเข้าไปพูดคุยเท่านั้น แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าคุยเรื่องอะไรหรือมีเรื่องอะไรที่สะกิดใจ ผกก.โจ้หรือไม่ เพราะไม่ได้เข้าไปด้วย ตนพูดคุยกับอดีต ผกก.โจ้แค่เรื่องคดีที่จะเดินหน้าต่อ เจ้าตัวมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ยังพูดคุยเรื่องจะให้อุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องทรัพย์สินยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยกันจะเน้นเป็นเรื่องคดีทั้งหมด

เมื่อถามถึงเรื่องที่อดีต ผกก.โจ้มีพฤติกรรมเอากล้องเรือนจำไปใช้ถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเรื่องที่ ผกก.โจ้ไม่ประสงค์จะให้สอบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนขอยุติเรื่องพร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ไม่ได้เกิดจากการบังคับ ทนายหรือครอบครัวทราบหรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์กล่าวว่า ต้องถามทางญาติพร้อมยืนยันว่าอดีต ผกก.โจ้ถูกย้ายไปขังเดี่ยวจริงแต่เรื่องอะไรไม่แน่ใจ ส่วนประเด็นที่ผู้คุมคู่กรณีถูกย้ายออกจากแดนแล้ว ให้ความเห็นอะไรได้ไม่มากคิดว่าทางเรือนจำคงทำตามกระบวนการให้ดีที่สุด

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยหลังตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตในเรือนจำของผู้กำกับโจ้ ว่า เร่งรัดให้กรมราชทัณฑ์และหน่วยงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องนำหลักฐานต่างๆที่มีอยู่ออกมาเปิดเผยชี้แจงโดยเฉพาะประเด็นที่ประชาชนและญาติสงสัย ขอให้แยกคดีนี้เป็น 2 ส่วน คือคดีการเสียชีวิตและคดีมูลเหตุจูงใจที่นำไปสู่การเสียชีวิต ยืนยันว่ามีความเสียใจกับผู้สูญเสีย สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือความเป็นธรรมจะช่วยดูแลเรื่องนี้

พ.ต.อ.ทวีกล่าวต่อว่า ส่วนที่ครอบครัวยังติดใจการแถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์ที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ครอบครัวรับข้อมูลมานั้น ในคณะอนุกรรมการฯ มีตำรวจอยู่ด้วยต้องทำอย่างตรงไปตรงมาในฐานะคนกลางได้ แม้เรื่องจะเกิดขึ้นในเรือนจำ เรือนจำต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจ ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเรือนจำขัดขวางไม่ให้ตำรวจเข้าสอบปากคำผู้กำกับโจ้กรณีถูกทำร้ายร่างกาย มีใบรับรองทางการแพทย์จาก รพ.ราชทัณฑ์ชัดเจน ว่าถูกของแข็งกระแทกเข้าที่ลำตัวนั้น ถ้าตรวจสอบแล้วเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานฯ กรมราชทัณฑ์มีมาตรการทางปกครองอยู่แล้ว ในส่วนผู้คุม หากทำร้ายร่างกายนักโทษจริงก็มีโทษทางวินัยขั้นร้ายแรงรวมถึงต้องดำเนินคดีอาญาโดยไม่ละเว้นแต่ขอตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้รอบด้านก่อน

รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า แม้ว่าผู้กำกับโจ้จะเสียชีวิตแล้วแต่คดีอาญายังไม่สิ้นสุดเพราะผู้กระทำ ความผิดยังมีชีวิตอยู่จนกว่าจะหมดอายุความสามารถสอบสวนจากพยานหลักฐานอื่น เช่น พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด และพยานบุคคล เชื่อว่าไม่มีการปิดบังพยานหลักฐาน กรมราชทัณฑ์ควรนำกล้องวงจรปิดตัวเต็มที่ไม่ผ่านการตัดต่อมาเผยแพร่ และควรจะอนุญาตให้เผยแพร่ด้วย เรือนจำไม่ใช่ศาลต้องไม่อคติกับใคร หากใครถามว่าเป็นแดนสนธยาหรือไม่ คงต้องไปถามชาวบ้าน ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ว่าผู้กำกับโจ้ป่วยจิตเวชนั้น เนื่องจากเอกสารที่ออกมาของกระทรวงยุติธรรม ทำให้ตนเข้าใจผิด แต่เมื่อได้พูดคุยกับแพทย์ถึงรายละเอียดแล้วพบว่าเป็นแค่อาการวิตกกังวล ไม่ใช่อาการป่วยทางจิตเวช ส่วนประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์โทรศัพท์คุยกับครอบครัวผู้กำกับโจ้ ให้ถอนแจ้งความคดีทำร้ายร่างกายภายในเรือนจำ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ

ต่อมาเวลา 11.40 น. ที่อาคารกระทรวงยุติธรรม น.ส.ธนัญญา อุทธนผล น้องสาวผู้กำกับโจ้ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ทวี ให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่ชายทั้งหมดโดยเฉพาะการเสียชีวิตในเรือนจำ พร้อมขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยเหลือ รู้สึกมั่นใจมากขึ้นหลังพบ รมว.ยุติธรรม ว่าจะทำให้ครอบครัว ได้รับความเป็นธรรม

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. กรมราชทัณฑ์ โดยนายเผด็จ หริ่งรอด ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รรท.ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม มีคำสั่งให้นายสิทธิพร แก้วคำบ้ง หรือผู้คุมเหน่ง นักทัณฑวิทยาชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานควบคุมแดน 7 พ้นจากการปฏิบัติหัวหน้างานควบคุมแดน 7 ไปประจำที่ส่วนบริหารทั่วไป และห้ามเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในเรือนจำ ห้ามเกี่ยวข้องกับผู้ต้องขัง เพื่อความโปร่งใสและไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการสอบข้อเท็จจริง

ที่เรือนจำกลางระยอง ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันเดียวกัน พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า คำสั่งย้ายนายสิทธิพร ถือเป็นเรื่องปกติให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง อธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงรวมทั้งสิ้น 7 ราย มีหัวหน้าผู้ตรวจกรมราชทัณฑ์ เป็นประธาน อีก 3 ราย เป็นบุคคลภายนอก ทั้งในส่วน ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง และมีระดับเจ้าหน้าที่ร่วมเป็นกรรมการ สำหรับประเด็นที่คณะทำงานต้องสอบถามและตรวจสอบนั้นจะถามทุกประเด็น โดยเฉพาะกรณีหนังสือร้องเรียนโดยแม่ของ ผกก.โจ้ ที่ได้เขียนถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 แต่ตอนที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ลงนาม ตรงกับวันที่ 3 มี.ค.68 ผกก.โจ้เสียชีวิตเมื่อ วันที่ 7 มี.ค.68 คณะทำงานชุดนี้จะตรวจสอบเรื่องหนังสือร้องเรียนของมารดาด้วยที่ว่ามีการกลั่นแกล้งทำร้ายร่างกายใดๆของผู้คุมต่อ ผกก.โจ้ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ รวมถึงกรณีเสียชีวิตระหว่างการคุมขังของ ผกก.โจ้ด้วย

พ.ต.ท.เชนกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เรือนจำไม่อนุญาตให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบสวนในเรือนจำ ขอชี้แจงว่าไม่ใช่ไม่ให้เข้าไป แต่เป็นช่วงที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมอยู่ระหว่างผลัดเปลี่ยนตำแหน่งทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องกันของเรื่องราว ทั้งนี้ยังไม่เห็นรายงานอื่นว่าผู้คุมสิทธิพรเคยถูกผู้ต้องขังรายอื่นร้องเรียนมาก่อนหรือไม่

ส่วนกรณีที่ว่าเขามีแบ็กดีไม่เคยได้ยินข่าว เขาเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของเรือนจำกลางคลองเปรม และได้รับรายงานว่าเรือนจำเคยเรียกผู้คุมสิทธิพรมาพูดคุยแล้วครั้งหนึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ เพราะปรากฏชื่อในหนังสือร้องเรียน แต่จากที่ดูภาพลักษณ์แล้วไม่ได้ดูเป็นคนดุดัน ส่วนกรณีที่ครอบครัวผู้กำกับโจ้ยังคงติดใจสาเหตุผูกคอตายนั้น ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ตนรู้สึกเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะเท่าที่ทราบพวกเขาพูดคุยทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครอบครัวเข้าเยี่ยมตลอดกว่า 3 ปี ตนเป็นรุ่นพี่ผู้กำกับโจ้ ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ยืนยันจะไม่ให้อดีตผู้กำกับโจ้ เสียชีวิตฟรีอย่างแน่นอน ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 7 ราย ที่มีการแต่งตั้งขึ้น

ด้านการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเวลา 12.40 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น เผยว่า ได้ส่งหนังสือไปขออนุญาตอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อสอบสวนผู้ที่มีรายชื่อ 5-6 คน ที่เกี่ยวข้องวันที่ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต ประกอบด้วยผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้เข้าช่วยเหลือ และผู้ต้องขังที่อยู่ห้องรอบห้องขังผู้กำกับโจ้ ยืนยันว่าหลังจากรับแจ้งความ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยประสานเรือนจำเข้าไปดูที่เกิดเหตุ และขอสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้เพราะไม่ได้ได้รับอนุญาตจากเรือนจำ ยืนยันว่าตำรวจทำทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม วันนี้ญาติผู้กำกับโจ้ ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำออกไปก่อน

สำหรับบรรยากาศงานศพผู้กำกับโจ้ ที่ศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน มีพวงหรีดจากบุคคลใกล้ชิดรวมทั้งพวงหรีดนายชาดา และ น.ส.ซาบีนา ไทยเศรษฐ์ เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 57 รวมถึงนายภูดิท หรือกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ทยอยมาติดที่ด้านหน้าศาลา ทั้งนี้ ญาติได้นำเครื่องแบบตำรวจของ ผกก.โจ้ มาวางไว้ มีเพื่อนตำรวจรุ่น 57 จัดเครื่องแบบให้เรียบร้อย ต่อมาเวลา 15.40 น. รถตู้บรรจุร่าง ผกก.โจ้เดินทางมาถึงศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล ญาติขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้บันทึกภาพอยู่ภายนอก กระทั่งเวลา 18.00 น. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข อดีต ผบช.ปส. อดีตผู้บังคับบัญชา ผกก.โจ้ เป็นประธานในพิธีสวดอภิธรรมคืนแรก มีบิดา-มารดา ผกก.โจ้ และครอบครัว รวมถึงเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 57 ร่วมพิธีท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกสลด ญาติงดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *