
ไขข้อข้องใจ: “ญี่ปุ่นไม่มีทหาร” แต่ทำไมกองทัพแกร่งติดอันดับ 8 ของโลก?
หากพูดถึง “ประเทศที่ไม่มีทหาร” หลายคนอาจนึกถึงญี่ปุ่นเป็นอันดับต้นๆ เพราะรัฐธรรมนูญของพวกเขาระบุชัดว่า “ห้ามทำสงครามและไม่มีสิทธิ์รักษากองทัพไว้เพื่อการรบ”
แต่ในขณะเดียวกัน รายงานด้านความมั่นคงระดับโลก กลับจัดอันดับให้ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับ 8 ของโลก ด้านศักยภาพทางทหารปี 2025
คำถามคือ… ประเทศญี่ปุ่น “ไม่มีทหาร” จริงหรือ? แล้วอะไรคือเบื้องหลังพลังป้องกันอันน่าทึ่งของญี่ปุ่นที่ทั่วโลกต่างจับตามอง?
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกโครงสร้าง กฎหมาย และขีดความสามารถทางทหารของญี่ปุ่นที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

“ไม่มีทหาร” แต่มีกองกำลังป้องกันตนเอง
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นถูกสหรัฐอเมริกาช่วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยใน มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ระบุว่า:
“ประชาชนญี่ปุ่นละทิ้งสงครามในฐานะสิทธิบูรณาการของรัฐ และการข่มขู่หรือการใช้กำลังเป็นวิธีแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ”
ภายใต้ข้อจำกัดนี้ ญี่ปุ่นได้จัดตั้ง “กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น” (Japan Self-Defense Forces: JSDF) ขึ้นในปี 1954 ซึ่งเป็นองค์กรทางทหารที่ไม่ได้ถูกเรียกว่า “กองทัพ” แต่มีหน้าที่ในการป้องกันประเทศ และช่วยเหลือในภารกิจด้านมนุษยธรรม

JSDF: ไม่ใช่กองทัพ แต่แกร่งไม่แพ้ใคร
แม้ในทางกฎหมายจะไม่ใช่ “กองทัพ” แต่ JSDF กลับมีความพร้อมทั้งบุคลากรและเทคโนโลยีทันสมัย โดยข้อมูลจาก Ministry of Defense Japan (MOD) และรายงานของ Global Firepower 2025 ชี้ว่า:
– งบประมาณทางทหาร ของญี่ปุ่นสูงถึงประมาณ 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.87 ล้านล้านเยน) ต่อปี
– กำลังพลรวมกว่า 247,000 คน
– มีเครื่องบินขับไล่ F-35, เรือพิฆาตติดตั้งระบบ Aegis, เรือดำน้ำล่องหน และเทคโนโลยีป้องกันขีปนาวุธขั้นสูง
– พัฒนาอาวุธและยุทโธปกรณ์เองในประเทศ เช่น เครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ F-X (โครงการโดย Mitsubishi)

อันดับ 8 ของโลก: ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
เว็บไซต์ Global Firepower ซึ่งจัดอันดับศักยภาพทางทหารโดยพิจารณาองค์ประกอบมากกว่า 60 ตัวแปร เช่น กำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจ ปรับอันดับในปี 2025 ให้ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก สูงกว่าประเทศมหาอำนาจในยุโรปบางประเทศเสียอีก
ดร.เจมส์ ดวร์ (Dr. James Dwyer) นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงแห่งมหาวิทยาลัย Exeter กล่าวว่า
“แม้ญี่ปุ่นจะไม่มีสถานะเป็นประเทศที่มี -กองทัพเต็มรูปแบบ- แต่การเตรียมพร้อมด้านเทคโนโลยีและความร่วมมือกับสหรัฐฯ ทำให้ศักยภาพของ JSDF สูงมาก”
กองกำลังยุคใหม่ที่ขยายบทบาท
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในระดับนานาชาติ เช่น การส่งกำลังช่วยเหลือภัยพิบัติในต่างประเทศ การซ้อมรบร่วมกับพันธมิตรในอินโด-แปซิฟิก และการป้องกันภัยทางไซเบอร์ โดยทั้งหมดนี้ดำเนินการภายใต้ หลัก “การป้องกันตนเอง” อย่างเคร่งครัด
บทสรุป
แม้ญี่ปุ่นจะไม่มีทหารในเชิงนิยามตามรัฐธรรมนูญ แต่การจัดตั้งกองกำลังป้องกันตนเองที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งด้านเทคโนโลยี งบประมาณ และความร่วมมือระหว่างประเทศ
ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็น “พลังป้องกัน” ที่แข็งแกร่งที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และเป็นแบบอย่างของการพัฒนาความมั่นคงในกรอบของสันติภาพ