สาวลงทุน ดิ ไอคอน เครียดจนแท้งลูก คิดฆ่าตัวตาย เผยติดตาม “พี่กันต์” นาน 10 ปี เชื่อมาตลอดว่าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แฟนคลับ
(14 ตุลาคม 2567) ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ผู้เสียหายจากบริษัท ดิ ไอคอน ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนางสาวสา และนางสาวหนิง (นามสมมติ) ได้นำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท The Icon มาแจ้งความกับร้อยเวร ทั้งสองรายเป็นผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าว โดยนางสาวสา เปิดบิลในระดับดีลเลอร์กับบริษัทในราคา 208,000 บาท ส่วนนางสาวหนิงเปิดบิลระดับดีลเลอร์สองครั้ง รวมเป็นเงิน 350,000 บาท รวมความเสียหายทั้งสองรายกว่า 600,000 บาท ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยนางสาวหนิงเป็นอัพไลน์ และนางสาวสา เป็นดาวน์ไลน์ ทั้งคู่ขึ้นตรงกับ “บอสปัน” หนึ่งในทีมแม่ข่ายระดับสูง ทั้งสองเริ่มต้นจากการเห็นโฆษณาบนเฟซบุ๊กก่อนที่จะสมัครเรียนออนไลน์ในราคา 98 บาท The Icon
นางสาวหนิงเปิดบิลก่อนในปี 2564 ส่วนนางสาวสา เห็นเพื่อนสมัครแล้วจึงตัดสินใจเป็นดาวน์ไลน์ในปี 2565 โดยเริ่มต้นเปิดบิลที่ 2,500 บาท ต่อมาได้รับเชิญให้ไปร่วมงานที่กรุงเทพฯ และถูกโน้มน้าวให้เปิดบิลในระดับดีลเลอร์เหมือนผู้เสียหายรายอื่น
อีกจุดร่วมหนึ่งคือ ทั้งสองชื่นชอบในตัว “พี่กันต์” โดยเฉพาะนางสาวสา ซึ่งเป็นแฟนคลับมานานกว่า 10 ปี นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจเข้าร่วมทำธุรกิจ แต่หลังจากลงทุนไปแล้ว ทั้งสองกลับไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ จนต้องประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ถึงขั้นนำรถไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อหาเงินลงทุน จนไม่มีแม้กระทั่งเงินจ่ายค่าไฟ และเหตุการณ์ยิ่งสะเทือนใจเมื่อทั้งสองแท้งลูก โดยแพทย์วินิจฉัยว่ามาจากความเครียดที่เกิดจากการลงทุน
นางสาวสา ยังเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เธอเครียดจนคิดสั้นอยากฆ่าตัวตาย แต่ลูกน้อยที่ร้องขอนมทำให้เธอได้คิดและยอมเลิกความคิดดังกล่าว ทั้งนี้เธอยังได้เปิดใจพร้อมน้ำตา โชว์หมวกที่ “กันต์” ทำขายให้แฟนคลับ ซึ่งเธอซื้อในราคา 599 บาท และบอกว่าเธอติดตามกันต์มานาน และเชื่อว่ากันต์คงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอ
สุดท้าย นางสาวสา ฝากถึง “บอสพอล” ให้ทำตามคำพูดที่เคยบอกไว้ว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และถึง “พี่กันต์” ในฐานะแฟนคลับ เธอยังรักและติดตามเขาอยู่ แต่ความศรัทธาในตัวกันต์ได้สั่นคลอนหลังจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งทำลายความรู้สึกที่เธอมีมาตลอด 10 ปีในเวลาเพียงไม่กี่วัน
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน