ประท้วงทรัมป์ เกี่ยวกับการเนรเทศผู้อพยพ การปลดเจ้าหน้าที่รัฐบาล และสงครามในฉนวนกาซาและยูเครน
ผู้คนจำนวนมากออกมาเดินขบวนบนท้องถนนทั่วสหรัฐฯ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการเนรเทศผู้อพยพ การปลดเจ้าหน้าที่รัฐบาล และสงครามในฉนวนกาซาและยูเครน
ผู้คนจำนวนมากออกมาเดินขบวนบนท้องถนนทั่วสหรัฐฯ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการเนรเทศผู้อพยพ การปลดเจ้าหน้าที่รัฐบาล และสงครามในฉนวนกาซาและยูเครน
การชุมนุมดังกล่าวซึ่งรู้จักกันในชื่อ “50501” ย่อมาจาก “การประท้วง 50 ครั้ง 50 รัฐ 1 ขบวนการ” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 250 ปีของการเริ่มต้นสงครามปฏิวัติอเมริกา
ผู้ประท้วงต่างแสดงความไม่พอใจในหลากหลายประเด็น และทั้งจากสถานที่ต่างๆ เช่น ทำเนียบขาว ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เทสลา และจากเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ หลายคนเรียกร้องให้ส่งตัวนายคิลมาร์ อาเบรโก การ์เซีย ซึ่งถูกเนรเทศไปยังประเทศเอลซัลวาดอร์โดยผิดพลาด กลับมายังสหรัฐฯ ทั้งนี้ การประท้วงทางการเมืองเริ่มเกิดขึ้นบ่อยขึ้นในสหรัฐฯ โดยการชุมนุม “Hands Off” ในช่วงต้นเดือนเมษายน ดึงดูดผู้คนได้หลายหมื่นคนในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ
การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของ Gallup แสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ 45 เห็นด้วยกับผลงานของทรัมป์ในไตรมาสแรกของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าร้อยละ 41 ที่เห็นด้วยในช่วงเวลาเดียวกันในรัฐบาลชุดแรกของเขา อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของไตรมาสแรกที่ 60% สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับการเลือกตั้งระหว่างปี 1952 ถึง 2020
การประท้วงเมื่อวันเสาร์ (19 เม.ย.) มีขึ้นเพื่อแสดงการต่อต้านการทำงานของทรัมป์หลายอย่าง รวมถึงการตั้งกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (Doge) ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของทรัมป์ที่จะลดจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ และการใช้จ่ายอื่นๆ และความไม่เต็มใจของรัฐบาลที่จะนำอานายเบรโก การ์เซีย ซึ่งเป็นพลเมืองเอลซัลวาดอร์ กลับประเทศ
โดยทั่วไปแล้ว การประท้วงดังกล่าวมีรายงานว่าเป็นไปอย่างสันติ แม้ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต จะโพสต์วิดีโอบน X ที่เป็นภาพของชายคนหนึ่งที่ถือป้ายทรัมป์ และผลักฝูงชนเพื่อเผชิญหน้ากับเขาอย่างโกรธเกรี้ยวก็ตาม
ผู้ประท้วงจำนวนมากถือป้ายที่มีข้อความว่า “No Kings” เพื่อเป็นการยกย่องวันครบรอบการเริ่มต้นการปฏิวัติของประเทศต่อการปกครองของอังกฤษ
ตามข้อมูลของ Gallup ความนิยมของทรัมป์ดูเหมือนจะลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นประเด็นด้านเศรษฐกิจ เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม คะแนนความนิยมของเขาอยู่ที่ 47% ส่วนคะแนนความนิยมของเขาในการสำรวจล่าสุดของ Reuters/Ipsos ลดลงเหลือ 43% เช่นกัน จาก 47% ในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง จากการสำรวจความคิดเห็นเดียวกัน พบว่ามีเพียง 37% เท่านั้นที่เห็นด้วยกับผลงานด้านเศรษฐกิจของเขา เมื่อเทียบกับ 42% ในช่วงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ชาวอเมริกันหลายแสนคนรวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาว การประท้วงดังกล่าวซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในพื้นที่ 1,200 แห่ง ใน 50 รัฐของสหรัฐฯ
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน