ป.3 ถูกเพื่อนรุมทำร้าย พ่อเผยยังทำใจไม่ได้ที่ลูกถูกทำร้าย
สรุปดราม่า “เด็กหญิง ป.3” ถูกเพื่อน 4 คนรุมทำร้าย “จับกดน้ำ-เอาไม้ฟาด” หลังไม่พอใจเพราะไม่ไปขอข้าวครูให้กิน ล่าสุดสภาพจิตใจยังย่ำแย่ พ่อยังทำใจไม่ได้ที่ลูกถูกทำร้าย
กลายเป็นกระแสดราม่าหนัก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้นำคลิปเด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่งของ จ.นครพนม ได้พูดเล่าเหตุการณ์ทั้งน้ำตา ว่าถูกเพื่อนรุมทำร้ายหลายคนในโรงเรียน เนื่องจากไม่พอใจที่สั่งให้ไปเอาข้าวครูมาให้กินแต่ไม่ยอมทำตาม จนมีการรุมทำร้าย พร้อมเปิดเสื้อด้านหลังให้ดูรอยบาดแผลลักษณะถูกเฆี่ยนตีด้วยไม้ จนเป็นแผลฟกช้ำทั่วแผ่นหลัง
ขณะที่เฟซบุ๊กดังกล่าว ยังได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า “เห็นสภาพหลานแล้วใจแทบขาด เลี้ยงมายังไม่เคยตีเลย มันจะเกินไปแล้วเด็กอายุแค่นี้ไปเจอขนาดนี้ ทำให้ไม่อยากจะไปโรงเรียน ทางบ้านถามก็ไม่บอกจนเรื่องมันเกิดขึ้นขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าหนูตายจะทำอย่างไร ทำไมหนูถึงไม่ยอมบอกว่าทั้งโดนไม้ตี ทั้งโดนกดน้ำจนสลบ โดนรุมทำร้ายมาหลายครั้งแล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้เป็นลูกหลานของตนเองคุณจะรู้สึกอย่างไร ขอให้เรื่องนี้อย่าเงียบ ขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุดนะคะ #เด็กโดนทำร้าย”
อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าว
ล่าสุด วันที่ 19 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอ้อม อายุ 60 ปี ยายของเด็กนักเรียนหญิงอายุ 8 ขวบ ที่โดนเพื่อนรุมทำร้าย เล่าว่า สภาพจิตใจเด็กย่ำแย่ บาดแผลฟกช้ำตามตัวหลายจุด จากการสอบถามหลาน หลานเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนจำนวนสี่คนใช้ให้ไปขอข้าวคุณครูมากิน แต่น้องไม่ยอมไป จึงทำให้เพื่อนไม่พอใจ ถือโอกาสช่วงพักเที่ยงลากตัวเข้าห้องน้ำ ซึ่งมีคนทำร้ายทั้งหมด 4 คน ใช้วิธีจับหัวกดลงถังน้ำหลายครั้ง และเอาแปรงขัดห้องน้ำตีหลัง ก่อนที่จะปล่อยตัวออกมาจากห้องน้ำ พร้อมข่มขู่ว่าไม่ให้บอกใคร
ทั้งนี้ ทำให้น้องเกิดความหวาดผวาไม่กล้าบอกครู และปิดบังผู้ปกครอง กระทั่งช่วงอาบน้ำแม่เจอบาดแผลจึงสอบถาม เค้นจนทราบว่าถูกเพื่อนทำร้าย จึงเกิดความไม่พอใจและโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากนั้นได้นำตัวน้องไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อขอใบรับรองแพทย์ โดยให้รอดูอาการใกล้ชิดแต่ยังไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรง มีเพียงแผลฟกช้ำตามตัว
นอกจากนี้ ทางผู้ปกครองยังได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพัก สภ.ท่าอุเทน ส่วนการดำเนินคดีทางผู้ปกครองยืนยันว่าให้เป็นไปตามกระบวนการ
ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้สั่งการให้ ดร.อมรรัตน์ เชิงหอม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา นครพนม เขต 2 พร้อมด้วย น.ส.สุพรรณี ศรีสุพรรณ เจ้าพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยุติธรรมจังหวัดนครพนม นายวิชพงษ์ ถินจันทร์ ปลัดอำเภอ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี เด็กอายุ 8 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถูกเพื่อนรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ มีการสอบถามข้อเท็จจริงระหว่างเด็กกับผู้ปกครอง ทั้งผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่ามีการก่อเหตุจริง เป็นความไม่พอใจระหว่างเด็กนักเรียน เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุมีจำนวน 4 คน สั่งให้ไปขอข้าวกับครูมากิน แต่ผู้เสียหายไม่ไปเพราะเกรงใจครู ทำให้กลุ่มเพื่อนร่วมชั้นไม่พอใจ เชื่อว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งตามประสาเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ช่วงพักเที่ยงจึงลากตัวน้องไปกดลงน้ำในถังห้องน้ำ จนสำลักน้ำหลายครั้ง รวมถึงเอาแปรงขัดห้องน้ำตีหลัง จนเป็นแผลฟกช้ำ รวมถึงจับหัวโขกพื้น และปล่อยตัวออกมา พร้อมข่มขู่ห้ามบอกใคร ด้วยความกลัวตามประสาเด็ก น้องไม่ยอมบอกครูจนกลับถึงบ้านแม่เห็นบาดแผล จึงเค้นถามได้ความจริง จึงแจ้งครูให้ตรวจสอบแสดงความรับผิดชอบ และเรียกกลุ่มเพื่อนที่ก่อเหตุมาชดเชยเยียวยา
ทางด้าน ดร.อมรรัตน์ เชิงหอม เผยว่า จะต้องใช้การหารือสอบข้อเท็จจริง วางแนวทางช่วยเหลือกับหลายหน่วยงาน เพราะผู้เสียหายผู้ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา อาจจะต้องใช้ทีมนักจิตวิทยาเข้ามาช่วยดูแลเจรจา เบื้องต้นทางผู้ปกครองฝ่ายก่อเหตุ พร้อมที่จะดูแลรับผิดชอบ แต่ทางผู้เสียหายยังได้รับผลกระทบทางสภาพจิตใจ ต้องใช้เวลาสักพัก ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และต้องวางมาตรการดูแลไม่ให้เกิดซ้ำอีก
รวมถึงจะต้องแก้ปัญหาให้ผู้เสียหายมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น อาจจะต้องย้ายโรงเรียนไปอยู่โรงเรียนใกล้เคียงหากยังหวาดผวา ส่วนการดำเนินคดีขึ้นอยู่กับผู้ปกครองผู้เสียหาย ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา นครพนม เขต 2 พร้อมดูแลเต็มที่ ยืนยันไม่ได้ปล่อยปละละเลย แต่ทราบข่าวช้าเพราะเด็กกลัวจึงไม่กล้าบอกตั้งแต่แรก
ขณะที่ นายคมศักดิ์ อายุ 37 ปี พ่อเด็กผู้เสียหาย เผยว่า ยังทำใจไม่ได้ สงสารลูกทั้งโดนทำร้าย รวมถึงสภาพจิตใจย่ำแย่ ยืนยันยังไม่ให้ไปเรียนที่เดิม และขอให้โรงเรียนหาทางช่วยเหลือเพราะจะปิดเทอมแล้ว อาจจะต้องให้ย้ายโรงเรียน ให้อภัยได้หากผู้ปกครองรวมถึงโรงเรียนออกมาแสดงความรับผิดชอบ
สำหรับเบื้องต้น เรียกร้องค่าชดเชยเยียวยา 3 แสนบาท ไม่ต้องการเงิน แต่อยากให้เป็นบทเรียน ไม่ให้ก่อเหตุลักษณะนี้อีก และการเจรจายังไม่ขอพูดคุยกับผู้ปกครองผู้ก่อเหตุ ขอให้สภาพจิตใจดีขึ้น และหากไม่สำนึกไม่มีคนแสดงความรับผิดชอบ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน