พ่อหลอนยา ทำร้ายลูกวัย 2 ขวบ เบ้าตาช้ำ หน้าเบี้ยวผิดรูป

พ่อหลอนยา ทำร้าย

บุกช่วยเหลือเด็ก ถูกพ่อหลอนยา ทำร้าย

“กัน จอมพลัง” รุดช่วยเหลือเด็กชาย 2 ขวบ จากราชบุรี หลังได้รับแจ้งถูกพ่อทำร้ายหนัก พบเบ้าตาบวมช้ำ ตาแตก หน้าเบี้ยวผิดรูป ข้างบ้านอ้างได้ยินเสียงเด็กโดนทำร้ายประจำ

วันที่ 3 มี.ค. 68 มีรายงานว่า “กัน จอมพลัง” หรือ กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ บุกช่วยเด็ก 2 ขวบ หลังจากชาวบ้านรวมตัวขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเด็กถูกพ่อบังเกิดเกล้าทำร้ายร่างกายอย่างหนัก เบ้าตาบวมช้ำ ตาแตก หน้าเบี้ยวผิดรูป อีกทั้งพ่อยังมีอาการคล้ายคนหลอนยา เพ้อเหม่อลอย เดินพูดคนเดียวประจำ ทั้งยังมีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับคนภายในชุมชน จนชาวบ้านกลัวและเอือมระอา

พ่อหลอนยา ทำร้าย

เมื่อเดินทางไปถึงห้องพักแห่งหนึ่งถนนเจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี พบว่าภายในห้องมี นายแมน (พ่อ) และ ด.ช.มีน (นามสมมุติ) 2 ขวบ (ลูกชาย) อยู่กันเพียง 2 คน

โดย กัน จอมพลังได้สอบถามว่า “ทำอะไรกันอยู่ และได้ทำร้ายร่างกายลูกจริงไหม ได้ใช้สารเสพติดหรือไม่” โดยทางพ่อเด็กให้การวกวนไม่รู้เรื่อง เหมือนคนหลอนยา แต่ปฏิเสธและอ้างว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูก ที่เห็นหน้าบวมปูดมีร่องรอยบาดแผลนั้น เพราะลูกล้มตกศาลพระภูมิ จนชนกับศาลพระภูมิ แต่ยอมรับใช้สารเสพติดจริง ภายในบ้านอุปกรณ์เสพยาวางกองอยู่เป็นจำนวนมาก และพบขวดนมที่มีนมที่บูดแล้ววางอยู่ข้างเปลข้างบ้าน

ทั้งนี้ยังพบว่า ตามร่างกายเด็ก 2 ขวบ ปรากฏร่องรอยถูกทำร้ายอย่างชัดเจน โดยหลังจากเข้าพูดคุย เจ้าหน้าที่ตำรวจ พมจ. ได้มีการพาเด็ก 2 ขวบ ออกจากห้องพักทันที เพื่อเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองราชบุรี ส่วนพ่อเด็ก ได้ถูกตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองราชบุรี เช่นเดียวกัน โดยระหว่างคุมตัวพ่อเด็ก ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ตนไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายลูก บาดแผลที่เห็นเพราะชนกับศาลพระภูมิ วิ่งซนเล่น มีบ้างที่ปล่อยลูกวิ่งออกไปเช่นนอกบ้าน ยอมรับว่าเสพยาเสพติดจริง และยอมรับว่าตนปล่อยให้ลูกเล่นตามลำพังบ่อยๆ เพราะต้องออกไปทำงานหาเงิน

กัน จอมพลัง ระบุว่า หลังได้รับแจ้งจากเคสนี้จากชาวบ้าน ตนรีบมาช่วยอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นเคสเกี่ยวกับเด็ก แต่เมื่อลงพื้นที่มาตรวจสอบพร้อมผกก.สภ.เมืองราชบุรี และพมจ.ราชบุรี หลังตรวจสอบและพูดคุยกับพ่อเด็ก พ่อเด็กยังไม่ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายลูก บอกแต่ว่าลูกเดินเล่นล้มไปชนจนเกิดบาดแผล แต่ยอมรับว่ามีการใช้สารเสพติดจริง ทั้งนี้ทางผกก.จะนำตัวไปสอบสวนในส่วนเรื่องของการทำร้ายร่างกาย พร้อมตรวจหาสารเสพติดต่อไป เบื้องต้นจะมีการเร่งรัดทำคดีแจ้งข้อกล่าวหาจาก “กรณีทำร้ายเด็ก และคดียาเสพติด”

พ่อหลอนยา ทำร้าย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะนำเด็กไปอยู่ในการดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากการตรวจสอบพบว่า นายแมน เคยมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และทำร้ายร่างกายจนท.ตำรวจ

ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้รับเบาะแสจากชาวบ้านว่า นายแมน มีพฤติกรรมชอบทำร้ายเด็ก เพราะช่วงกลางคืนชาวบ้านใกล้บ้านพักของ นายแมน จะได้ยินเสียงลูกของนายแมนร้องอยู่บ่อยๆ จนชาวบ้านทนไม่ไหวจึงมีการแจ้งความกับทางตำรวจ ทั้ง นายแมน ยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย และมีพฤติกรรมก่อความวุ่นวายภายในชุมชน จนจนท.ตำรวจได้รับแจ้งและเข้ามาห้ามปราบบ่อยครั้ง ซึ่งจะนำตัว นายแมน ไปสอบสวนที่สภ.เมืองราชบุรี เกี่ยวกับคดีทำร้ายร่างกายลูกของตนเอง หากพบว่ามีการทำร้ายร่างกายลูกของตนเองจริง ก็จะดำเนินคดีพร้อมคดีเสพสารเสพติด

ทั้งนี้ยังพบว่า นายแมน ยังเคยมีคดีเสพสารเสพติด และคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ แต่เป็นคดีเก่าที่เคยรับโทษไปแล้ว ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตัว นายแมน แต่ได้ขัดขืนและต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาเพิ่มเพื่อให้ได้รับโทษมากขึ้น จนมาอยู่ภายในชุมชนนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี ก็ติดตามพฤติกรรมมาตลอด

จนเมื่อกลางเดือน ก.พ. นายแมน ได้มีเรื่องทะเลาะกับแฟนตัวเอง และเป็นแม่ของเด็ก ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ประสานบ้านพักเด็กมาทำข้อตกลง เพราะนายแมน จะขอดูแลลูกไว้เอง แต่มาวันนี้ นายแมนได้ทำผิดข้อตกลงทั้งหมดที่ได้ทำหนังสือสัญญากับทางบ้านพักเด็ก ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องรับเด็กไปดูแลที่บ้านพักเด็กก่อน ซึ่งทางพ่อเด็กยังไม่ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายลูก อ้างว่าลูกเดินชนล้มกระแทก จนได้รับบาดเจ็บ อันนี้เป็นคำกล่าวอ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปดูผลการตรวจร่างกายเด็กจากทางโรงพยาบาล พร้อมสอบสวนพยาน และหลักฐานทั้งหมด ว่าร่องรอยจากตัวเด็กมาจากอะไร ในส่วนของการเสพสารเสพติด จะมีการตรวจหาสารเสพติด และแจ้งข้อหาต่างๆ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านพักเด็กจังหวัดราชบุรี เผยว่า เคสนี้พ่อและแม่ได้แยกทางกัน และมีการแจ้งว่าพ่อน่าจะทำร้ายร่างกายเด็ก แต่ไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ทางพมจ.จึงทำข้อตกลงไว้ ถ้าตรวจสอบได้ว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายลูกหรือมีเรื่องร้องเรียนภายใน 1 เดือน ลูกสามารถจะอยู่ในความดูแลของพ่อได้ ปรากฏว่า นายแมน ผู้เป็นพ่อทำผิดสัญญาหลายข้อ จากนี้เด็กจะอยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กไปก่อน

พ่อหลอนยา ทำร้าย

ขณะที่ น.ส.สุพรรณ เพื่อนบ้านบอกว่า เขาเพิ่งย้ายจากท้ายซอยมาอยู่ที่ห้องนี้ยังไม่ถึงเดือน มักจะได้ยินเสียงเด็กร้องเป็นประจำ จนทุกคนสงสัยว่าพ่อเด็กทำอะไรกับเด็ก ทำร้ายร่างกายเด็กไหม ที่ผ่านมาพ่อเด็กจะมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดโวยวาย ด่าทอ หาเรื่องเพื่อนบ้าน และถ้าใครยุ่งจะโดนเขามาต่อว่า เวลาที่เขาเมายาจะขี่รถจักรยานวนไปเวียนมาในซอยประจำ

นางฐิติรัตน์ เจ้าของบ้านเช่าบอกว่า นายแมนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่ถึง 1 เดือน เธอไม่รู้รายละเอียดมากเพราะมีคนเขาพามาเช่าอีกที และไม่ทราบเลยว่านายแมนมีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้ารู้เธอคงไม่ให้เช่า จากนี้ไม่ให้เช่าและให้ไปอยู่ที่อื่น

นายต่าย ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าปกติก็จะเห็นผู้เป็นพ่อขี่รถจักรยานพาลูกไปมาในชุมชนแต่คิดว่าก็คงเครียดที่เมียหนีแล้วก็อาจจะมีเล่นยาบ้างแต่ไม่สมควรที่จะทำร้ายเด็กทำบ่อยหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่คนแถวนี้ก็ให้เขากินบ่อยให้นมให้ขนมให้อาหาร

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน