ตำรวจตามสกัดจับ รวบแล้วลูกเขยโหด บุกบ้านพ่อตายิงดับ 2 ศพ หลังพบขับรถหลบหนีไปในพื้นที่ จ.ชัยนาท อ้างพ่อตาจะมาทำร้ายก่อน
จากกรณีตำรวจเร่งตามล่าตัว “หนุ่มโหด” บุกยิงอดีต “พ่อตา-แม่ยาย” ดับคาบ้าน หลังทำร้าย “เมีย” จนโดนบอกเลิก ซึ่งญาติเผยเคยขู่ไว้ ถ้าเลิกลาจะฆ่าทิ้ง โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 11 มี.ค. 68 ภายในหมู่บ้านบัวคลี่ ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (ล่าตัวหนุ่มโหด ทำร้ายเมียจนถูกบอกเลิก บุกบ้านยิงอดีต “พ่อตา-แม่ยาย” ดับสลด)
คืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการตำรวจทุกพื้นที่ และประสานส่วนตำรวจทางหลวง ช่วยสกัดจับรถยนต์สิบล้อตู้ทึบ ซึ่งเป็นลักษณะรถขนส่งสินค้า รหัสข้างรถ 22 หลังผู้ก่อเหตุใช้เป็นรถหลบหนี ซึ่งเบื้องต้น หลังจากทราบเส้นทางหลบหนี ใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าขึ้นนครสวรรค์ สุดท้ายพบว่าเข้าพื้นที่จังหวัดชัยนาท จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และตำรวจทางหลวง
ล่าสุดได้รับรายงานว่า พ.ต.ต.อนวัช ตันตินันทกุล สว.ส.ทล.6 กก.1 ทางหลวงสิงห์บุรี สั่งการให้รถวิทยุตรวจเขต 1606 พร้อมกำลังพล 2 นาย ร.ต.ต.ศุภโชติ พันธุศร ส.ต.อ.กิตติพงษ์ ทองอินทร์ รถตรวจเขตหน่วยบริการ จ.ชัยนาท ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรชัยนาท ออกตรวจสอบติดตามสกัดจับรถที่ นายทรงพล ผู้ก่อเหตุ ขณะขับหลบหนีได้แล้วที่บริเวณสะพานต่างระดับ จ.ชัยนาท สายเอเชีย ซึ่งจะควบคุมตัวมาที่ สภ.อุทัย เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด
พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้ก่อเหตุนั้นก่อเหตุและหลบหนี จนสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ตนเองมีการพูดคุยทางโทรศัพท์ทราบว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้มาหาภรรยาที่บ้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุอ้างว่าจะนำทองมาให้ภรรยา แต่พ่อตาแม่ยายปิดประตูไม่ให้เปิด จึงปีนข้ามประตูรั้วเข้าไปในบ้านพ่อตา ผู้ก่อเหตุอ้างว่าพ่อตาจะเข้ามาทำร้ายก่อน รวบแล้วลูกเขยโหด
ตนเองจึงใช้อาวุธปืนยิงพ่อตา จำนวน 2 นัด และแม่ยาย 1 นัด และหันมายิงภรรยาก่อนจะหลบหนี โดยคนร้ายยังอ้างว่า หลังจากก่อเหตุแล้ว ตั้งใจจะขับรถส่วนตัวไปเปลี่ยนรถที่บริษัท เพื่อจะขอปฏิบัติหน้าที่โดยการนำสินค้าไปส่งครั้งสุดท้าย จากนั้นก็จะเดินทางมามอบตัว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับก่อน ส่วนอาวุธปืนนั้นเก็บไว้ในรถเก๋งที่ขับหลบหนีมา
หลังจากจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ คือ นายทรงพล คงคาไหว อายุ 47 ปี ชาวตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวมีนา เข็มแก้ว อายุ 43 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าหลังจากที่ทราบข่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุยิงครอบครัวของตนเองนั้น ถูกจับกุมได้แล้ว ก็รู้สึกเฉยๆ เพราะยังไงก็ต้องรู้ดีว่าตำรวจต้องตามจับตัวได้อย่างแน่นอน ส่วนทางครอบครัวก็อโหสิกรรมให้คนร้ายถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และชดใช้กรรมที่ก่อไว้
ส่วนตนเอง เคยบอกกับหลานสาวผู้บาดเจ็บแล้วว่า อย่าไปคบกับคนร้าย ซึ่งหลานสาวเคยพูดว่า คนร้ายนั้นมีครอบครัวและมีภรรยาอยู่แล้ว แถมยังจะหลอกว่ามีเงินถึง 7 – 8 ล้านอยู่ คบด้วยแล้วจะสุขสบาย ตนเองก็เคยเตือนแล้วว่าอย่าไปคบหา จนมาเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น.
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน