“ทวี” ยัน รัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาไฟใต้ ยึดการพูดคุยสันติสุข วอนอย่าด้อยค่าคู่เจรจา

“พ.ต.อ.ทวี” รมว.ยุติธรรม ยัน รัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาไฟใต้ ยึดการพูดคุยสันติสุข เพื่อความปลอดภัยประชาชน ลั่น ไม่ใช่เรื่องของศาสนา

วอนอย่าด้อยค่าคู่เจรจา สวนฝ่ายค้าน เจรจาไม่ต้องออกทีวี แจงปมเคยพูดเทียบซินเจียงโมเดล วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ยืนยันรัฐบาลมุ่งมั่นจะแก้ปัญหาภาคใต้ โดยเฉพาะชีวิตความปลอดภัยและทรัพย์สิน อยากสร้างสันติสุขให้ยั่งยืน ซึ่งการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และแก้ด้วยสันติวิธี โดยเมื่อวานนี้ (5 พฤษภาคม 2568) ตนได้ไปรดน้ำศพตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด และพบหน่วยกำลังในพื้นที่ ก็ได้บอกว่าในเบื้องต้นต้องทำให้ประชาชนได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย อย่าให้พื้นที่เป็นของฝ่ายตรงข้าม พื้นที่ต้องเป็นของรัฐ รัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาไฟใต้

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากในโครงสร้าง ในหมู่บ้าน จะมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 37 คน และมีกองกำลังอาสา จ.นราธิวาส ที่มี 3,000 คน และมีทหารพราน 7,500 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3,800 คน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะป้องกันไม่ได้ แต่ว่าต้องได้รับความร่วมมือจากผู้นำในท้องที่ ผู้นำศาสนา หรือผู้นำจิตวิญญาณ ทุกคนต้องเข้าใจตรงกันว่ามนุษย์ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง ซึ่งได้หามาตรการไว้แล้ว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว รัฐบาลมีนโยบายไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ดูแลอยู่ คงจะได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการพุ่งเป้าไปที่ชาวไทยพุทธเยอะ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตนก็ได้รับรายงานถึงสาเหตุมา แต่ขอให้มีการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เมื่อวานนี้ที่ตนไปเยี่ยมผู้ป่วยก็มีผู้นำศาสนามาเยี่ยมด้วย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของศาสนา แต่การกระทำกับกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการเปิดพื้นที่เจรจาโดยเร็วที่สุด พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า เราคงไม่ต้องออกทีวีเจรจา

ทางด้านคำถามว่าขณะนี้มีการเจรจาทางลับอยู่ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวตอบว่า การแก้ปัญหาสูงสุดคือต้องเอาความปลอดภัยและความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นหลัก รัฐบาลเคารพฝ่ายค้าน แต่วิธีการกระทำของรัฐบาลก็ต้องทำภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่สำคัญเราต้องเปิดให้ประชาชนมีส่วนในการกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง โดยเฉพาะชาวไทยพุทธต้องเข้ามามีส่วนในการพูดคุยด้วย

สำหรับเรื่องการเจรจาพูดคุย ในส่วนหัวหน้าของฝ่ายไทยยังไม่มีความชัดเจนว่ามีใครบ้างนั้น พ.ต.อ.ทวี เผยว่า เดิมเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลตนไม่ทราบว่าคำสั่งนั้นมีการยกเลิกหรือยัง แต่ก็เป็นแบบนี้มาตลอด ที่เลขาฯ สมช. เป็นหัวหน้าในการพูดคุย เมื่อถามอีกว่าคนที่เราพูดคุยเจรจาด้วยใช่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี บอกว่า เราอย่าไปด้อยค่าเขา เพราะการพูดคุยหากเป็นช่วงเดือนรอมฎอน ถ้าเขาบอกหยุดก็ต้องหยุด เพราะฉะนั้นเราอย่าไปด้อยค่าใคร

ส่วนกรณีในพื้นที่มีใบปลิวโจมตีว่ารัฐบาลจะออก พ.ร.บ.ก่อการร้าย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีคำพูดนี้จากรัฐบาล แต่ในส่วนของวุฒิสภามีการพูดคุยในเรื่องนี้ แต่ไม่น่าจะมีความคิดนี้ โดยเฉพาะตนไม่มีแน่นอน เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี เคยพูดถึงการเป็นเขตปกครองพิเศษ จุดยืนของพรรคประชาชาติเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตนไม่เคยพูดถึงเรื่องเขตปกครองพิเศษ แต่พูดว่าตนเพิ่งได้ไปเขตปกครองพิเศษซินเจียง-อุยกูร์มา และบอกว่าลักษณะของเขตปกครองพิเศษนี้จะคล้ายกับภาคใต้บ้านเรา ในเรื่องของภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะปิดกั้น นอกจากนี้คนจีนก็พูดกับคนในพื้นที่ไม่ได้ ต้องมีการแปลจากภาษาอุยกูร์เป็นภาษาจีน

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นคำถามว่าการเพิ่มขึ้นของเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ต้องทำให้รัฐบาลเพิ่มการพูดคุยเจรจามากขึ้นหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ให้คำตอบว่า การเจรจาก็เป็นกุศโลบายหนึ่ง เพราะเราต้องยอมรับว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนไทยด้วยกัน ดังนั้นควรหันหน้ามาคุยกัน.

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน