หนุ่มเมาคลั่งเผารถตัวเอง พร้อมถือมีดวิ่งเข้าป่า เจ้าหน้าที่ตามหากันวุ่น!

หนุ่มเมาคลั่งเผารถ

ระทึก! หนุ่มเมาคลั่งเผารถตัวเอง จ.ชัยภูมิ

วันที่ 10 ก.พ. 68 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 22.40 น. ของวันที่ 9 ก.พ. ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุมีชายเกิดอาการเมาหลอนจุดไฟเผารถยนต์ตัวเองที่จอดอยู่ริมถนนใกล้คอสะพาน เส้นทางไปฝายน้ำล้น ชุมชนเมืองน้อยใต้ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงรีบแจ้งหน่วยดับเพลิงเทศบาลเมืองชัยภูมิ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรม จ.ชัยภูมิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ จำนวนหนึ่ง เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเหล็กไม้ง่าม

ที่เกิดเหตุพบ ชายอายุประมาณ 30-35 ปี อยู่ในอาการหลอน ใช้ไฟแช็กจุดเผากระดาษภายในรถยนต์ ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ภายในตัวรถ เกิดควันขโมง ต่อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี อยู่บ้านในตำบลดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ยืนถอดเสื้อ เดินไปเดินมารอบตัวรถ ในมือถือมีดดาบยาวประมาณ 1 ฟุตพร้อมที่จะทำร้ายตัวเองตลอดเวลา โดยเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้รถยนต์ กำลังลุกลามเข้าไปในตัวบ้าน

หนุ่มเมาคลั่งเผารถ

โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาพูดคุยกับนายเอ๋นานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ไม่เป็นผล พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดวกไปวนมา พอฟังจับใจความได้บางประโยคว่าไม่มีใครรักตน เมียก็ไม่รัก เพื่อนร่วมงานก็ไม่รัก ตอนนี้ตนอยู่คนเดียว ไม่อยากอยู่ พูดอยู่แบบนี้คนเดียวเป็นชั่วโมง

ทั้งนี้ ชาวบ้านใกล้เคียงที่มามุงดูเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า ชายผู้ก่อเหตุได้นั่งกินเหล้าที่หน้าบ้านตัวเอง และดื่มน้ำกระท่อมด้วย จนเมาได้ที่เกิดทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาตัวเองในเรื่องที่เอาแต่กินแต่เหล้า กินน้ำกระท่อมเมาทุกวัน ไม่เป็นผู้เป็นคน เมียได้ไล่ออกจากบ้าน จนได้ขับรถเก๋งมาจอดที่เกิดเหตุแล้วจุดไฟเผารถเก๋งตนเองจนเสียหายทั้งคัน รถน้ำดับเพลิงเทศบาลเมืองชัยภูมิ และรถน้ำดับเพลิง อบจ.ชัยภูมิ ได้ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ตัวรถ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้นำไม้ง่ามเดินเข้าหา นายเอ๋ (นามสมมติ) เห็นท่าไม่ดี ได้วิ่งถือมีดหนีเข้าป่าไปในความมืด เจ้าหน้าที่ได้ใช้ไฟออกค้นหาตามชายป่านานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึงเวลาประมาณ 01.30 น.วันนี้ (10 ก.พ. 68) ได้เห็นนายเอ๋หลบอยู่ในชายป่าพื้นที่ใกล้เคียง ได้ใช้ปืนไฟฟ้ายิงสกัดสยบความคลั่งได้ ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม และให้เจ้าหน้าที่ทำการรักษา หากอาการดีขึ้นก็จะเชิญมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน