เด้ง 4 ตำรวจกองบิน เซ่นตก 2 ลําซ้อน พบสาเหตุ นอตใบพัดหาย ทำให้เครื่องเสียการทรงตัวและตก

เด้ง 4 ตำรวจกองบิน

เด้ง 4 ตำรวจกองบิน นักบินและช่างเครื่องเสียชีวิต รวม 9 ศพ ภายในระยะเวลา 1 เดือน

จเรตํารวจแห่งชาติเผยเหตุ ฮ.ตำรวจตก พบนอต 2 ตัวยึดใบพัดหาง ฮ.หลุด ทำให้ใบพัดไปตัดกับตัวชุดหางของเฮลิคอปเตอร์ขาดทำให้เครื่องเสียการทรงตัวและตก ยืนยันว่าจะต้องมีคำตอบ เหตุที่เกิดขึ้นจะต้องมีคนรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่อยากตั้งธงว่าเป็นความผิดใคร ขณะที่ผู้การกองบินถึงกับติดอ่าง ตอบคำถามสื่อ ทำไมไม่ใช้ ฮ.แบบเดียวกับที่ตกเดินทาง หลังบอก ผบ.ตร.มีภารกิจไปทองผาภูมิแต่ใช้เครื่องยูโร

จากเหตุการณ์เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจตก 2 ลำ ทำให้นักบินและช่างเครื่องเสียชีวิต รวม 9 ศพ ภายในระยะเวลา 1 เดือน ก่อให้เกิดคำถามมากมาย โดยเฉพาะเรื่องความไม่โปร่งใสในการซ่อมบำรุง ถึงขั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ต้องไปสร้างขวัญกำลังใจที่กองบินตำรวจท่าแร้ง ปิดห้องพูดคุยกับนักบินและช่างเครื่อง เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการเข้าไปหารือร่วมกับกองบินตำรวจ เพื่อวางแนวทางการบริหารงานและสร้างความมั่นใจให้กับนักบินหลังเกิดเหตุเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจตก 2 ครั้งภายใน 1 เดือน และมีผู้เสียชีวิต ว่า หน้าที่ผู้บังคับบัญชาจะต้องสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นกับสังคม ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับนักบินเพื่อจะทำหน้าที่ขับเครื่องบินให้ผู้ที่ร้องขอและมีความมั่นใจสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการบิน หลักการคือต้องสร้างความโปร่งใสและสร้างความมั่นใจให้นักบิน ดังนั้นจะต้องเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อีกทั้งตนได้วางแนวทางการบริหารงานให้กับกองบินตำรวจในเรื่องของอากาศยาน และวิธีการบริหารของนักบิน รวมถึงวิธีการซ่อมบำรุงต่างๆให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น

เมื่อถามว่าอากาศยานที่ยังใช้งานได้แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบจะกลับมาทำการบินได้หรือไม่หลังจากระงับการบินของอากาศยานทุกชนิดไว้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์มีบางส่วนซ่อมบำรุงตามวงรอบ ยังต้องใช้เวลาซ่อมบำรุงก่อน ส่วนอากาศยานที่บินได้ การสร้างความมั่นใจจะต้องตรวจสอบภาคพื้นดินให้ชัดเจน และให้เกิดความเรียบร้อยโดยให้นักบินเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย คาดว่าจะเริ่มกลับมาทำการบินได้ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. หากมีภารกิจจำเป็นอะไร อากาศยานที่ใช้งานได้อยู่สามารถตรวจสอบได้ภายใน 2-3 วันนี้ตามลำดับ แต่การตรวจสอบแบบครบทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

วันเดียวกัน ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ตกใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ.ธัชชัยได้เข้าตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ลำที่ตกและลำเลียงมาไว้ที่กองบินตำรวจเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ

พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และร่วมประชุมกับ ผบก.บ.ตร. นักบินและช่างเครื่องทั้งหมดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นประกอบด้วยหลายส่วนและเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด รวมทั้งบริษัทที่ผลิตเฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าวจะร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อให้ทราบสาเหตุและดูว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้อง โดยจะดูไปถึงเรื่องงบประมาณที่ใช้ซ่อมบำรุงเพื่อให้ทราบว่าประเด็นปัญหาต่างๆมาจากสาเหตุใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณหรือการจัดซื้อจัดจ้างและจะเชิญสำนักงานตรวจสอบภายใน ตร. (สตส.) เข้าตรวจสอบด้วย เบื้องต้นจะรายงานให้ ผบ.ตร.ทราบภายในวันนี้ โดยพบสาเหตุเบื้องต้นคือ “ใบพัดส่วนหางขาด เนื่องจากนอต 2 ตัวยึดใบพัดด้านหลังหลุด ทำให้ใบพัดเสียการทรงตัวไปตัดกับตัวชุดหางของเฮลิคอปเตอร์ขาด โดยชุดใบหางมีหน้าที่ควบคุมทิศทางทำให้เครื่องเสียการทรงตัวและตกลงในที่สุด” ส่วนสาเหตุที่นอตหลุดต้องตรวจสอบว่าหลุดจากการใช้งาน หรือหลุดจากการซ่อมบำรุงแต่นอตดังกล่าวยังอยู่ในอายุการใช้งานอีกกว่า 600 ชั่วโมง

จตช.กล่าวต่อว่า การซ่อมบำรุงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการบินไทยเป็นคู่สัญญาซ่อมบำรุง ส่วนตำรวจจะซ่อมเองกรณีเสียหายเล็กน้อย สำหรับนอตต้องไปดูว่าเป็นที่โรงงานผลิตหรืออยู่ในส่วนของการซ่อมบำรุง เป็นสาเหตุที่จะต้องตรวจสอบรายละเอียด โดยยังตอบไม่ได้ว่าอะไหล่ที่นำมาซ่อมได้คุณภาพหรือไม่ ยืนยันว่าจะต้องมีคำตอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีคนรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าส่งให้กับกองทัพอากาศซ่อมบำรุงนั้นยังไม่เห็นข้อเท็จจริง แต่ยืนยันว่าสามารถตรวจพิสูจน์ได้ เนื่องจากเป็นวิทยาศาสตร์มีเอกสารหลักฐาน ตรวจสอบได้ชัดเจนว่ามีใครเป็นคนสั่งและอนุมัติ ขอให้รอการตรวจสอบก่อน ไม่อยากให้ไปตั้งธงเป็นความผิดของใคร ในการสืบสวนข้อเท็จจริงจะดำเนินการตามพยานหลักฐาน อาจจะเกิดจากวัสดุที่หมดอายุหรือเกิดจากความผิดพลาดของการผลิตหรือจากการซ่อมแซมที่นำ
ไปสู่วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพทำให้เกิดเหตุเครื่องบินตกหรือเกิดความผิดพลาดของนักบิน ประเด็นเหล่านี้วางกรอบไว้ชัดเจน ต้องพิสูจน์ให้ได้ข้อเท็จจริง ยืนยันงานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูเพราะเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะเป็นภาพลักษณ์ต่อองค์กร

ด้าน พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ กล่าวว่า ตามหลักการแล้วเราเป็นนักบิน ชีวิตนักบิน อากาศยานที่บินเป็นงบประมาณของ ตร.ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้น จะต้องมีความปลอดภัยเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ภายใน 30 วันเกิดเหตุถึง 2 ครั้ง ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงจะเกิดจากสาเหตุใด ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือกระบวนการซ่อมบำรุงตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ โดยวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) ผบ.ตร.มีภารกิจใช้อากาศยานไปที่ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี กองบินตำรวจมีความพร้อมโดยจะใช้เครื่องยูโร เมื่อถามว่าทำไมไม่ใช้เฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลชนิดเดียวกับที่ตก พล.ต.ต.อำนาจถึงกับกล่าวด้วยน้ำเสียงติดอ้างว่า เบลๆๆๆก็ได้ แบบไหนก็ได้ ได้หมด เครื่องทุกลำไม่ได้เสี่ยงยังใช้ได้หมด แต่เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเท่านั้น
เย็นวันเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ระบุว่า ด้วยกรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 68 และวันที่ 24 พฤษภาคม 68 เป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมาให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด จเรตำรวจได้มีคำสั่งลงวันที่ 30 เมษายน 68 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเนื่องจากมีเหตุเป็นที่สงสัยว่ามีข้าราชการตำรวจประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และไม่มีความเหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส เกิดความเป็นธรรม และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 และมาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 จึงสั่งการดังนี้ให้ข้าราชการตำรวจ 4 นาย ตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายคำสั่งนี้ ช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและให้ พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมสม รองผู้บังคับการกองบินตำรวจ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองบินตำรวจ

สำหรับนายตำรวจทั้ง 4 นายที่ให้ไปช่วยราชการ ศปก.ตร. ประกอบไปด้วย พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ พ.ต.อ.แดนชัย พิมพ์สาร รองผู้บังคับการกองบินตำรวจ พ.ต.อ.พิชัยศักดิ์ พันโยพร ช่างอากาศยาน (สบ 5) กลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญช่างอากาศยาน และว่าที่ พ.ต.ท.สุเทพ วงค์กวน ช่างอากาศยาน (สบ 2) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน