แม่น้องไนซ์เปิดใจ น้องไนซ์บอกให้ไปสน.ทองหล่อเลย แล้วจะได้เห็นบางอย่าง น้องบอกให้แจ้งความกลับ รู้สึกโดนคุกคาม ไม่ได้กินข้าวเลยจนถึง 21.00 น.
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 มิ.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากครอบครัวเชื่อมจิตเข้าพบนางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อยื่นให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่พม.สุราษฎร์ธานี เรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ล่าสุดพ่อและแม่ รวมถึงทนายความแถลงข่าวที่กองปราบ โดยแม่น้องไนซ์ เผยว่า หลังจากยื่นเอกสารที่พม.แล้ว ก็นำเอกสารชุดเดียวกัน มอบให้กองปราบปราม เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้แถลงข่าวที่พม.นั้น เนื่องจากผู้ใหญ่ที่ พม.เป็นห่วงเรื่องการเบียดเสียด นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จึงแถลงข่าวด้วยตัวเอง ก่อนครอบครัวเดินทางมาที่กองปราบปราม หลักฐานวันนี้เป็นเรื่องเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา และก่อนหน้านั้น ซึ่งมีทนายท่านหนึ่ง ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับน้อง ครอบครัวและเพจนิรมิตเทวาจุติ ในข้อกล่าวหานำข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อแสวงหาประโยชน์
แม่น้องไนซ์ กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พม.มีโอกาสพูดคุยกับน้อง และเจ้าหน้าที่ถามน้องว่า “ความรู้ตรงนี้ ได้มาจากที่ไหน” ซึ่งน้องบอกไปว่า “เป็นความรู้ที่ติดตัวมาจากข้างบน” และก่อนเดินทางกลับน้องได้สวมกอดเจ้าหน้าที่พม. ก่อนจะบอกว่า “ฝากเรื่องของน้องด้วยนะ” ซึ่งเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะดูแลให้ ภาพที่แม่ได้เห็นเป็นความประทับใจในระหว่างที่น้องได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่พม.
แม่น้องไนซ์ กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์ที่ สน.ทองหล่อ มีหมายเรียกรวมทั้งหมด 3 คน พ่อ แม่ และน้อง ซึ่งจริงๆ ครอบครัวตั้งใจจะเข้าไปวันที่ 4 มิ.ย. แต่อยู่ๆ น้องบอกว่าจะไปวันนี้ (3 มิ.ย.67) เลย และน้องบอกกับพ่อแม่ว่า สิ่งที่จะได้เห็น ที่ สน.ทองหล่อนั้น จะได้เห็นหมดเลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับน้องบ้าง แล้วสิ่งที่ได้เห็น แม่จะสามารถเอาไปใช้ในชั้นศาลได้ แล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆ แต่ใช้คำว่านิมิตรหรืออะไรแม่ไม่รู้แต่ ที่น้องพูดมาไม่มีพลาด
แม่น้องไนซ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานทำให้เห็นอะไรหลายอย่าง ตนต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ สน.ทองหล่อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ สน.ทองหล่อเป็นความประทับใจ บรรยากาศในช่วงที่สอบสวน ก็เป็นบรรยากาศที่น่ารัก ซึ่งไม่ตรงเลย กับการที่มีคนไปพูดว่า “น้องก้าวร้าวกับตำรวจ” นั้นไม่เป็นความจริง ที่สำคัญประโยคบางประโยค ที่มีการแจ้งความไว้นั้น น้องก็ยืนยันว่าน้องไม่ได้พูด และจะมีการแจ้งความกลับด้วย
แม่น้องไนซ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการพิมพ์ลายนิ้วมือที่ไม่ยอมขึ้นไปชั้น 2 นั้น เพราะมองว่าน้องเป็นเด็ก ไม่ว่าพ่อแม่จะทำอะไร อยู่ตรงไหน น้องจะอยู่ตรงนั้น ส่วนเรื่องการปีนบันไดหนียืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทำไมถึงจะต้องปีนหนีด้วย อีกทั้งการพิมพ์ลายนิ้วมือ ไม่มีเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องพิมพ์ตรงไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวเกิดขึ้นมากมาย มองว่าครอบครัวนำน้องมาเป็นโล่กำบัง แม่น้องไนซ์ กล่าวว่า ขอยืนยันไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาครอบครัวของเราไม่ว่าจะไปไหนมาไหนจะไปกันแบบครอบครัว พ่อแม่ลูกเสมอ เพราะว่าครอบครัวของเราอบอุ่น พร้อมยอมรับว่าไม่รู้สึกโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มีบางประเด็นที่คาใจ โดยเฉพาะประเด็นที่นำเสนอออกมาแบบไม่เป็นความจริง บางคนยังรู้จักกับน้องเลย แต่ตัดสินไปแล้ว
“อยากให้มองว่าน้องเป็นเพียงแค่เด็ก 8 ขวบ หากเป็นคนธรรมดาก็คงจะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่น้องบอกกับครอบครัวเสมอว่า “ความจริงอย่ากลัวการโจมตี” ทางครอบครัวไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร”แม่น้องไนซ์กล่าว
“แม่ขอให้ความรู้นิดนึง สิ่งที่เกิดขึ้นแค่มีคนหนึ่งมาแจ้งความ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โต หรือร้ายแรงอะไรที่จะต้องทำเหมือนเราเป็นอาชญากร ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เราแค่มารับทราบข้อกล่าวหา แล้วมาดูว่าตรงนั้นตรงไหม จะปฏิเสธไหมเท่านั้นเอง เป็นแค่คดีหมิ่นประมาท”แม่น้องไนซ์กล่าว
แม่น้องไนซ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้น้องบอกให้แจ้งความกลับ เนื่องจากน้องมีความรู้สึกว่าโดนคุกคาม ขณะที่น้องกำลังพูดคุยกันในห้องสอบสวน จะได้ยินเสียงตะโกนเข้ามาในห้องตลอดเป็นคำด่า ตำรวจที่อยู่ก็รู้ดี เพราะอยู่กันหลายคน เหตุการณ์ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อวาน ตนขอเรียกว่าอำมหิตมาก หลังจากข่าวออกก็มีการปลุกระดมคน ให้ไปปิดล้อมโรงพัก ทำให้น้องไม่ได้กินข้าวเลยจนถึง 21.00 น.
“หลังจากนี้สิ่งไหนที่น้องทำ แล้วน้องมีความสุข ในฐานะพ่อแม่ก็จะปล่อยให้น้องทำ เรื่องการสอนธรรมเป็นเรื่องที่น้องทำแล้วมีความสุข ก็ต้องปล่อยเขาไป แต่ตอนนี้สิ่งที่อยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแล คือ เรื่องที่เราโดนคุกคาม และเอาอะไรที่ไม่เป็นความจริงของน้องไปเผยแพร่ แล้วสื่อก็ประโคมข่าวกันไม่เลิก”
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่👉ข่าวเด็ดประจำวัน