รู้จัก “โรคแอนแทรกซ์” ดับแล้ว 1 ราย เสี่ยงสูง 247 คน หลังกินเนื้อวัวงานบุญมุกดาหาร
รู้จัก “โรคแอนแทรกซ์” มุกดาหารดับแล้ว 1 ราย เสี่ยงสูง 247 คน เหตุกินเนื้อวัวงานบุญ เปิดไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิต
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารประกาศเตือนประชาชน งดบริโภคเนื้อวัว ควาย แพะ แกะ แบบดิบ หลังพบผู้เสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน และอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยขณะนี้ ชาวบ้านตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล กินเนื้อวัวที่อาจปนเปื้อนเชื้อ ปัจจุบันพบผู้ป่วยรวม 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาอยู่ 3 ราย สัมผัส 247 ราย
ไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์
นายพัฒน์ อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้าง มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน มีประวัติการสัมผัส โค กระบือ และรับประทานเนื้อวัว ก่อนจะมีอาการไข้ และมีตุ่มบริเวณผิวหนัง
– วันที่ 12 เมษายน 2568 ชำแหละวัว และกินเนื้อดิบ
– วันที่ 24 เมษายน 2568 มีแผลที่มือ ผิวหนังเริ่มมีสีดำ
– วันที่ 27 เมษายน 2568 ไปรักษาที่โรงพยาบาลดอนตาล ส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลมุกดาหาร อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว
– วันที่ 30 เมษายน 2568 เสียชีวิต ผลตรวจพบเชื้อ Bacillus anthracis ชัดเจน
นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว สาธารณสุขจังหวัด เผยว่า ได้เฝ้าระวังผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมดและให้ยาป้องกันแล้ว พร้อมยืนยันว่าโรคนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่คน ขณะเดียวกันมีการตั้งด่านสกัด 4 จุดในพื้นที่อำเภอดอนตาล เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์
เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ลงพื้นที่บ้านโคกสว่าง ตรวจสอบจุดชำแหละวัวต้องสงสัย เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ฉีดวัคซีนโคและกระบือในรัศมี 5 กิโลเมตร รวม 800 ตัว เพื่อควบคุมโรค
ต้นตอจากการชำแหละวัวในงานบุญ
นายทัศนเทพ รักษ์พิทักษ์กุล ผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เกิดในงานบุญวันที่ 12-13 เม.ย. มีการชำแหละวัว ผู้เสียชีวิตก็ร่วมกิจกรรมและมีแผลที่มือ ต่อมาวัวอีกตัวตายในวันที่ 28 เม.ย. แต่บางคนยังนำไปชำแหละกินอีก ทำให้เกิดการแพร่เชื้อ
นายบุญ คนยืน อายุ 74 ปี ชาวบ้านโคกสว่าง กล่าวว่า กังวลกับเหตุการณ์ แต่ก็รู้สึกอุ่นใจที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่และดูแลอย่างใกล้ชิด
สาธารณสุขจังหวัดขอให้ประชาชนติดตามข่าวจากทางการ หากมีอาการไข้ ไอ หายใจลำบาก หรือแผลมีตุ่มหนองดำ และมีประวัติสัมผัสสัตว์หรือกินเนื้อดิบ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
สถานการณ์ล่าสุด
- พบผู้สัมผัสทั้งหมด 247 คน แบ่งเป็นผู้ชำแหละสัตว์ 28 คน และผู้กินเนื้อดิบ 219 คน
- ให้ยาป้องกันผู้เสี่ยงสูง 129 คน
- มีผู้สัมผัสแสดงอาการแล้ว 1 ราย รอตรวจยืนยัน
- ตั้งศูนย์คัดกรองเพิ่มเติมในหมู่บ้าน
มาตรการควบคุมสัตว์
- พ่นยาฆ่าเชื้อพื้นที่ชำแหละ
- เก็บตัวอย่างเนื้อ เลือด อุจจาระ ส่งตรวจ
- ฉีดยาปฏิชีวนะโคในหมู่บ้าน 124 ตัว
- ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ในรัศมี 5 กม.
แผนดำเนินการต่อ
- สืบหาแหล่งเชื้อ
- เฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 60 วัน
- ฉีดวัคซีนสัตว์ 1,222 ตัว ภายใน 1 สัปดาห์
- คุมเข้มสัตว์ป่วยตายในพื้นที่ 20 วัน
รู้จักโรค “แอนแทรกซ์” (Anthrax)
ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน หรือ “หมอแล็บแพนด้า” นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “แอนแทรกซ์” (Anthrax) เป็นโรคติดเชื้อรุนแรง เกิดจากแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสามารถสร้างสปอร์ที่ทนทานและอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานนับสิบปี พบได้ในดิน พืชผัก หรือซากสัตว์ที่ปนเปื้อน และสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ 3 ทางหลัก ดังนี้
แอนแทรกซ์ทางผิวหนัง (Cutaneous Anthrax)
– พบบ่อยที่สุด (ประมาณ 95% ของผู้ติดเชื้อ)
– เริ่มจากตุ่มคัน ก่อนกลายเป็นแผลสีดำล้อมด้วยวงบวมแดง
– อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า 1% หากรักษาเร็ว
แอนแทรกซ์ทางเดินหายใจ (Inhalational Anthrax)
– อันตรายที่สุด เกิดจากการสูดสปอร์เข้าไป
– อาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด ก่อนลุกลามไปสู่อาการช็อกและระบบไหลเวียนล้มเหลว
– อัตราเสียชีวิตสูงกว่า 80% หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา
แอนแทรกซ์ทางเดินอาหาร (Gastrointestinal Anthrax)
– มาจากการกินเนื้อสัตว์ติดเชื้อที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
– อาการคือปวดท้องรุนแรง อาเจียน และถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสีดำ
– อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 25–60%
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน