ไฟป่าภาคเหนือ ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ หนักหนาสาหัส อากาศแย่ติดอันดับโลก
(30 มี.ค.68) นายภาสกร บุญญลักษณ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รับรายงานสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ อ.งาว จ.ลำปาง ล่าสุด เกิดไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ถนน ลำปาง-งาว ได้รับความเสียหายประมาณ 100 ไร่ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ทั้งนี้ อ.งาว จัดกำลังเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าห้วยทาก จำนวน 15 นาย เจ้าหน้าที่อุทยานถ้ำผาไท จำนวน 10 นาย ทีมงานเครือข่ายชุมชนใกล้เคียง จำนวน 15 นาย และ อปท. เข้าดำเนินการควบคุมไฟป่า รวมทั้งหมด จำนวน 40 นาย จัดทำแนวกันไฟตามพื้นที่โดยรอบเพื่อควบคุมการลุกลาม เบื้องต้น สามารถควบคุมไฟป่าได้แล้ว และ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับสถานการณ์ไฟป่า ในพื้นที่ บ้านห้วยเดื่อ ม.3 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อช่วงค่ำวานนี้ พบการเกิดไฟป่าบริเวณ (ดอยหิ่ง) บ้านห้วยเดื่อ ใกล้กับสถานที่กำจัดขยะ (บ่อขยะ) ของเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ขนาด 6 ไร่ ความลึก 13 เมตร สร้างความเสียหายพื้นที่ป่าประมาณ 10 ไร่ และ ยังคงมีไฟไหม้ในพื้นที่สูง
ทั้งนี้ สำนักงาน ปภ. จ.แม่ฮ่องสอน สำนักงานหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท ทม.เมือง อบต.ผาบ่อง ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟ เสือไฟ (ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าแม่ฮ่องสอน) สิงห์ไฟ (สมาชิกอาสารักษาดินแดน อ.เมืองฯ) อปพร. อส. จิตอาสา เข้าดำเนินการควบคุมไฟป่า และจัดทำแนวกันเพื่อไม่ไห้ไฟลุกลามเข้าพื้นที่ชุมชน
วิกฤตไฟป่าในภาคเหนือ ใน จ.เชียงใหม่-ลำปาง-แม่ฮ่องสอน เกิดขึ้นตั้งแต่ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 68 โดยเช้าวันนี้ 31 มีนาคม 68 ที่ผ่านมาแม่ฮ่องสอนพบจุดความร้อนสะสมกว่า 4,000 จุดแล้ว ซึ่งอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ถนน ลำปาง-งาว เปิดเผยว่าได้รับความเสียหายประมาณ 100 ไร่ และ จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับความเสียหายประมาณ 80 ไร่
(31 มี.ค. 68) ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CCDC) รายงาน “ค่าฝุ่น PM2.5” อัปเดตเวลา 08.00 น. พบหลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ เกินมาตรฐาน แต่ที่ รพ.สต.บ้านปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว หนักสุดวัดได้ 625 µg/m3ขณะที่ iqair รายงานดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI⁺) และมลพิษทางอากาศ PM2.5 “เมืองหลัก” ที่มีค่าคุณภาพอากาศแย่สุด เช้านี้พบ “เชียงใหม่” ติดอันดับ 4 ของโลก ส่วนของประเทศคว้าไป 6 ที่
ทางด้าน อุทยานแห่งชาติดอยจง -Doi Chong National Park ตั้งอยู่ในท้องที่ของอำเภอเถิน อำเภอสบปราบ อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง และอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โพสต์ภาพและข้อความว่า
เมื่อสัตว์ป่ากลายเป็นเหยื่อจากไฟป่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยจงกำลังปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าอยู่นั้น ก็ได้พบกับคุณแม่ตัวหนึ่ง เป็นนกยูงเพศเมียที่กำลังกกไข่ พยายามปกป้องลูกน้อยให้พ้นอันตรายจากเปลวเพลิงที่กำลังโหมเข้าใส่ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงได้ช่วยกันควบคุมไฟ และช่วยเหลือแม่นกยูงตัวนี้และลูกๆ ให้รอดพ้นจากความตายในครั้งนี้ได้
โดยผลกระทบจากไฟป่านี้ทำให้แหล่งอาหาร และที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าถูกทำลาย ในบางกรณีที่เกิดควันไฟมากๆ อาจทำให้สัตว์ป่าเกิดความสับสน สายตาพร่ามัว หายใจลำบาก ยิ่งในสัตว์บางตัวที่โดนไฟไหม้หรือโดนไฟคลอก ทำให้เกิดบาดแผลรุนแรง จนเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากกลับมาคิดดูให้ดีๆ อีกครั้ง มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า แต่เป็นสัตว์ป่าต่างหาก ไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกนี้ ที่ไม่รักตัวกลัวตาย สัตว์ป่าก็เช่นกัน เพียงแต่ #สัตว์ป่ามันพูดไม่ได้ “เจ้าปลอดภัยแล้วนะ แม่นกยูงน้อย
หากใครพบเห็นหรือทราบว่ามีสัตว์ป่าได้รับผลกระทบจากไฟป่า หรือพบเห็นไฟป่า สามารถแจ้งสายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติฯ 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน
