นายกฯ เข้าสภาฟังกระทู้ถามสด ช่วยพ้นนรกคอลเซ็นเตอร์ แจงสภาฯ ครั้งแรกเรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์รับปากยืนยันกวาดล้างไม่จบไม่เลิก
ทูตอินโดนีเซียนำรถบัสไปรับจากเมียวดีข้ามมาแม่สอด ผ่านกระบวนการคัดกรองแล้วเดินทางมาขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองกลับประเทศ “น้องไข่มุก” เหยื่อค้ามนุษย์ที่อายุน้อยที่สุด รอดพ้นนรกบนดินจากแก๊ง หลังตำรวจ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง ประสาน ผกก.ตม.สระแก้ว และ ผบ.ทหารพรานที่12 กองกำลังบูรพา ร่วมกันติดตามตัวกลับมาได้ เจ้าตัวเผยถูกหลอกไปทำงานกับแก๊งคอลฯที่เมืองชายแดนกัมพูชาติดเวียดนาม บังคับให้หาเหยื่อวันละร้อยราย ทำไม่ได้ถูกทำร้ายกักขังทุบตี และมีเด็กหญิงชายคนไทยรุ่นราวคราวเดียวกันถูกหลอกมาทำงานอีกมาก อีกรายสาวลพบุรีถูกแก๊งคอลฯหลอกไปทำงานที่ปอยเปต หนีมาได้และปีนรั้วกั้นพรมแดนสถานีรถไฟคลองลึกจากเขมรเข้าไทย
เหยื่อการค้ามนุษย์ชาวอินโดนีเซีย 94 คน เป็นชาย 70 คน หญิง 14 คน ที่กองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF นำตัวมาได้จากอาคารต่างๆของจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองชเวก๊กโก่ เมืองเมียวดีและเมืองเคเคปาร์ค จ.เมียวดี สหภาพเมียนมา พร้อมกับเหยื่อการค้ามนุษย์รายอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ได้กลับบ้านแล้ว ช่วยพ้นนรกคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ เมื่อเช้าวันที่ 27 ก.พ. เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทยและเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับผิดชอบฝ่ายไทย นำรถบัส 2 คัน เดินทางข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก ไปรับตัวชาวอินโดนีเซีย 94 คน ที่ จ.เมียวดี มี พ.ท.หม่องโซ หน่าย รองผู้บังคับการกองกำลังพิทักษ์ชายแดนBGF เป็นผู้ส่งตัวทั้งหมด ขึ้นรถบัสกลับมาที่ด่านพรมแดนแม่สอด 2 ฝั่งไทย คัดกรองเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ซักถามสอบประวัติพฤติการณ์ เพื่อหาข้อบ่งชี้จากการค้ามนุษย์ หลังเสร็จขั้นตอนทุกกระบวนการ ทั้งหมดถูกไปพักที่อาคารเทอร์มินอล ตม.ไทย จนเวลา ช่วยพ้นนรกคอลเซ็นเตอร์
19.00 น. จึงนำขึ้นรถบัสเดินทางออกจาก อ.แม่สอด มาสนามบินดอนเมือง กทม. ขึ้นเครื่องบินกลับประเทศอินโดนีเซีย
ส่วนชาวจีน 4,860 คน ที่มาทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังถูกกักตัวคุมขังไว้ตามอาคารต่างๆ ที่ จ.เมียวดี ภายใต้การควบคุมเข้มงวดของทหาร BGF ความเป็นอยู่ของทั้งหมดอยู่ในสภาพแออัด มีอาหารและน้ำดื่มไม่เพียงพอ ทำให้ทุกคนอยู่ในสภาวะเครียด ชาวจีนหลายกลุ่มมีอารมณ์ก้าวร้าวจากการถูกควบคุมตัว รัฐบาลจีนจะนำเครื่องบินพาณิชย์แบบเช่าเหมาลำมารับตัวชาวจีนชุดที่ 2 ที่สนามบินนานาชาติแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ในวันที่ 4 มี.ค.จากเดิมจะมารับช่วงสิ้นเดือน ก.พ.แต่ต้องเลื่อนไปเพราะต้องรอการประชุมไตรภาคี “ไทย-เมียนมา-จีน” และเร่งคัดกรองแก๊งคอลเซ็นเตอร์แยกเหยื่อกับผู้บงการ ช่วยพ้นนรกคอลเซ็นเตอร์
ขณะที่ พ.ท.หม่อง โซ หน่าย รองผู้บังคับการกองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าขอหยุดปฏิบัติการปราบปรามกวาดล้างไว้ก่อนจนถึงวันที่ 28 ก.พ. เนื่องจากไม่มีพื้นที่ควบคุมเพียงพอ และเหยื่อการค้ามนุษย์กลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศต้นทางหมดแล้ว จึงจะออกกวาดล้างจับกุมต่อ
วันเดียวกันที่สภาผู้แทนราษฎร เวลา 11.30 น. ในการประชุมสภาฯ มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ เป็นประธานที่ประชุม ขณะพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ สส. กทม. พรรคประชาชน ที่สอบถามนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เรื่องบ้านเพื่อคนไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้เข้ามาในห้องประชุมสภาฯและนั่งบนที่นั่ง ครม.ที่จะมาตอบกระทู้ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายกรัฐมนตรี ถึงการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ นายกฯได้ลุกขึ้นตอบกระทู้ถามสดของนายอัครเดชด้วยตัวเอง ถือเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธารมาตอบกระทู้สดในสภา
น.ส.แพทองธารระบุว่า รัฐบาลจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง เพื่อระงับความเสียหาย มีการปิดบัญชีม้าไป 1.92 ล้านบัญชี การยกร่าง พ.ร.ก. ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมกำชับหน่วยงานความมั่นคงซีลพื้นที่ชายแดน แก้ปัญหาเข้มข้น จับกุมขบวนการค้ามนุษย์ที่ผ่านแดนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตผิดกฎหมาย ส่วนผู้ต้องสงสัยที่จับได้จะคัดกรองและส่งตัวดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่ได้ผลคือ การตัดไฟและหยุดส่งน้ำมัน ได้สั่งการทันที ทำให้ปัญหาลดลง ถือว่ารัฐบาลได้รับความร่วมมือ และมีผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ จนมีการขนย้ายอุปกรณ์และคนออกจากพื้นที่ทำการของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ
นายกฯกล่าวต่อว่า ขณะที่การควบคุมซิมม้า จะสั่งการให้ กสทช.และกระทรวงดีอีรับไปดำเนินการ ในวันที่ 28 ก.พ.จะไป จ.สระแก้ว ติดตามสิ่งที่สั่งการ อาทิ การลดเสาส่งสัญญาณอินเตอร์เนต ปราบปรามซิมบ็อกซ์ ระงับไวไฟคอลลิ่งจากประเทศเพื่อนบ้าน จัดระเบียบผู้ซื้อผู้ให้บริการไลเซนส์โทรคมนาคม ที่ผ่านมาเกิดความเสียหาย 100 ล้านบาทต่อวัน แต่ตอนนี้เหลือ 50 ล้านบาทต่อวัน ถือว่ายังมากอยู่ แต่ตั้งใจจะให้ตัวเลขลดลงเรื่อยๆ หากได้รับความร่วมมืออย่างบูรณาการแบบนี้ เชื่อมั่นว่า คอลเซ็นเตอร์จะต้องหมดจากประเทศไทยในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน ส่วนผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทราบดีถึงการมีผู้มีอิทธิพลชื่อดังที่มีข่าวลือออกมา นัก การเมือง นายทุน ข้าราชการ ขอให้คำมั่นสัญญากับสภาฯว่า จะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ให้ทุกคนมั่นใจว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ตำแหน่งสูงใหญ่ ถ้าทำผิดเรื่องนี้ ทำให้คนไทยเดือดร้อน ตนจะจัดการอย่างเด็ดขาด มั่นใจว่าจะทำได้อย่างเต็มที่แน่นอน พูดไปหลายที่แล้ว เป็นนายกฯของคนไทย ต้องดูแลคนไทยก่อนคือสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด ให้ทุกคนมั่นใจว่า รัฐบาลไม่จบไม่เลิกแน่นอน ทั้งนี้ หลังจากที่นายกฯชี้แจงจบ มีเสียงปรบมือจาก สส.ที่แสดงความชื่นชมด้วย
ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ. พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ตม.สระแก้ว พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการ ทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำตัว ด.ญ.ไข่มุก อายุ 14ปีที่หายจากบ้านที่ระยองเมื่อวันที่ 22 ก.พ. หลังมีชายคนหนึ่งทักไลน์มาหาหลอกให้ไปทำงานที่ จ.สระแก้ว โดยขับรถมารับถึงบ้านและแม่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปลวกแดงให้ช่วยติดตามหาตัว จนพบว่าถูกหลอกไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์และ พ.อ.เมธี จึงประสานกับ จนท.กัมพูชาให้ไปช่วยนำตัวกลับมา โดยมีพ่อแม่และป้า มารอรับที่หน้าด่านถาวร คลองลึก อ.อรัญประเทศ หลังน้องไข่มุกที่อยู่ในสภาพอิดโรยมาถึงได้โผเข้ากอดพ่อแม่พร้อมร้องไห้ด้วยความดีใจและให้ข้อมูลว่าถูกพามาที่ จ.สระแก้ว ก่อนถูกส่งตัวไปที่บ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งและมีคนจะส่งตัวต่อไปที่เวียดนามแต่ไม่ยอมไปขออยู่แค่ชายแดนกัมพูชา ตลอด 5 วันที่อยู่ ถูกบังคับให้ทำงานตั้งแต่ 09.00 น. ต้องหาเหยื่อให้ได้วันละ 1 ร้อยราย หากทำไม่ได้จะไม่ได้กินข้าวและถูกทำร้าย กระทั่งได้รับการช่วยเหลือในที่สุด
สำหรับเคสน้องไข่มุก ถือเป็นเคสที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงานที่อายุน้อยที่สุด น้องไข่มุกยังบอกอีกว่า มีเด็กไทยรุ่นราวคราวเดียวกับตนทำงานอยู่ที่นั่นอีกมาก ขณะที่ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์และ พ.อ.เมธี เผยว่า หลังตำรวจ สภ.ปลวกแดง ประสานมาและส่งรูปพรรณน้องไข่มุกมาให้ จึงส่งข้อมูลไปให้ตำรวจเขมรติดตามตัวมาได้ เคสนี้ถือว่า โชคดีมากที่สามารถนำตัวน้องกลับคืนมาให้ครอบครัวได้สำเร็จและรวดเร็ว ฝากเตือนเด็กวัยรุ่นและผู้ที่คิดว่าจะไปทำงานในสถานที่ที่มีข้อเสนอรายได้สูงๆนั้น ไม่มีอยู่จริง จะมีแต่พวกที่ทำงานไม่สุจริตเท่านั้น
เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นหญิงอีกรายที่หนีนรกมาได้ หลังลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ มาที่บริเวณท้ายตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ถูก จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมร้อย ทพ.1201 จับขณะกำลังปีนรั้วชายแดนหลังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึกฯ ฝั่งปอยเปต เข้ามาเขตไทย คุมตัวไปสอบถามชื่อ น.ส. มิ่งขวัญ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาว จ.ลพบุรี อ้างว่าหนีมาจากแก๊งคอล เซ็นเตอร์ ที่ จ.บันเตียเมียนเจย จะกลับบ้านที่ลพบุรี น.ส.มิ่งขวัญอ้างว่าได้สมัครงานทางออนไลน์มาทำงานที่ปอยเปต ได้เงินเดือน 2 หมื่นบาท จึงเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงสถานี บขส.อรัญประเทศฯมีชาวกัมพูชาขี่รถ จยย.มารับไปส่งเป็นทอดๆ ข้ามแดนช่องธรรมชาติจนไปถึง จ.บันเตียเมียนเจย มีคนจีนมารับเข้าไปในตึก 18 ชั้น จึงรู้ว่าถูกหลอกให้มาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหาทางหลบหนี หลังข้ามเข้ามาในฝั่งไทยถึงแม้ถูกทหารจับก็ถือว่าโชคดีที่ได้กลับประเทศไทยแล้ว
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน