ผู้ช่วยพยาบาลสาว งง แม่ค้ามะนาว กระชากเสื้อรัว ตบหน้ากลางตลาดดัง ด่าทอหาว่า ไม่จ่ายเงิน ทั้งที่เพิ่งรับเงินทอน สร้างความอับอาย ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด
วันที่ 1 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา นายนายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว พร้อมด้วย นางปรารถนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พนักงานช่วยการพยาบาล เดินทางมาพบ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี
เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่ นางปรารถนา ซึ่งตกเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.เยาวรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) แม่ค้าขายมะนาวในตลาดสดแห่งหนึ่งหลังจากถูกกระชากหัวมาตบหน้ากลางตลาด ด่าทอด้วยคำหยาบคาย และกล่าวหาว่านางปรารถนาไปโกงเงินทอนค่าซื้อมะนาว เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา
นางปรารถนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ตนได้แวะซื้อของในตลาดสดแห่งหนึ่งหลังจากไปจ่ายค่าเทอมให้กับลูกชายที่โรงเรียน จึงได้แวะตลาดสดเพื่อจะซื้อมะนาวไปทำกับข้าวในตอนเย็น
นางปรารถนา กล่าวต่อว่า ปรากฏว่าในตลาดตนเห็นมีแผงรถเข็นของ น.ส.เยาวรัตน์ ขายมะนาวอยู่ จึงได้เข้าไปเลือกซื้อมะนาวในราคา 50 บาท พร้อมกับจ่ายเงินเป็นแบงก์ 500 บาทให้ไป ซึ่งทางนางเยาวรัตน์ได้ทอนเงินกลับมาให้ตน 450 บาท พอรับเงินทอนมาแล้ว ตนจึงเดินไปเลือกซื้อพริกต่อที่ร้านอื่น
นางปรารถนา กล่าวอีกว่า ปรากฏว่าระหว่างที่ตนกำลังเลือกซื้อพริกอยู่นั้น น.ส.เยาวรัตน์ซึ่งเดินมาจากข้างหลัง ได้เข้ามาจิกหัว กระชากเสื้อที่ตนสวมใส่ ก่อนจะระดมตบหน้าตนหลายครั้ง พร้อมกับด่าทอและกล่าวหาว่า ตนเป็นคนขี้โกง ไปซื้อของเขามาแล้วไม่จ่ายเงิน โดยน.ส.เยาวรัตน์พยายามจะทวงเงินทอนคืนจากตนด้วย
นางปรารถนา กล่าวด้วยว่า ตนซึ่งกำลังตกใจและงงอยู่ว่าน.ส.เยาวรัตน์มาตบตนเรื่องอะไร จึงได้พยายามปัดป้องชี้แจงว่า ได้ยื่นแบงก์ 500 บาทจ่ายค่ามะนาวให้ไปแล้ว ถ้าตนไม่ยื่นเงินให้ไปก่อน แล้วน.ส.เยาวรัตน์จะทอนเงินทอน 450 บาทมาให้ตนได้อย่างไร
นางปรารถนา กล่าวว่า แต่แม่ค้ามะนาวก็ไม่เชื่อตน ยังคงกระชากเสื้อยืดตนเอาไว้จนเสื้อตนเลิกขึ้นไปจนเห็นเสื้อชั้นใน และตบหน้าด่าทอตนพร้อมกับพูดทวงเงินทอนย้ำ ๆ อยู่แบบนั้น ก่อนที่มีผู้ชายคนหนึ่งมาเข้าช่วยห้ามปราม จึงทำให้คู่กรณีหยุดตบตน ก่อนจะฉุดกระชากตนให้เดินตามออกจากตลาดเพื่อไปโรงพักด้วยกัน
นางปรารถนา กล่าวต่อว่า ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าตนได้ยื่นแบงก์ 500 บาท จ่ายค่ามะนาวให้นางปรารถนาไปแล้ว ตนจึงยอมนั่งรถสามล้อถีบไปโรงพักคู่กันกับน.ส.เยาวรัตน์ ซึ่งตนพร้อมที่จะแจ้งความกลับน.ส.เยาวรัตน์ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกายเช่นกัน
นางปรารถนา กล่าวด้วยว่า แต่ปรากฏว่าระหว่างที่นั่งรถสามล้อถีบมาโรงพักด้วยกัน ก่อนที่รถสามล้อจะถึงโรงพัก คู่กรณีได้หันมาบอกกับตนว่า เปลี่ยนใจแล้ว ไม่อยากเอาเรื่อง คิดว่าฟาดเคราะห์ไป แต่ตนไม่ยอมจึงบอกกับคู่กรณีไปว่า จะมาเปลี่ยนใจตรงนี้ไม่ได้แล้ว
นางปรารถนา กล่าวอีกว่า ตนถูกทำร้ายร่างกายจนอับอายไปทั้งตลาดแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้ผิดอะไร จะมาจบแบบนี้ไม่ได้ ตนไม่ยอมเช่นกัน ทางคู่กรณีจึงพูดบอกกับตนว่า ข้อหาทำร้ายร่างกายยังไงก็ไม่ติดคุก ส่วนจะมาเรียกเงินอะไรจากตนนั้น ตนก็คงไม่มีชดใช้ให้หรอก ก่อนที่ตนกับคู่กรณีจะเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกัน
นางปรารถนา กล่าวว่า จากนั้นตนจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.เยาวรัตน์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวตนไปตรวจบาดแผลที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำผลตรวจมาใช้ในการพิจารณาแจ้งข้อหากับแม่ค้ามะนาวรายนี้ต่อไป
นางปรารถนา กล่าวต่อว่า วันนี้จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดีกับพนักงานสอบสวน เพราะตนทั้งถูกทำร้ายร่างกายให้ได้รับความอับอาย ด่าทอดูหมิ่น จนอับอายไปทั้งตลาด ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ขอยอมความใด ๆ ต้องการดำเนินคดีในทุกข้อหาให้หมด เพื่อให้เป็นบทเรียนกับแม่ค้าเจ้าอารมณ์รายนี้
จากนั้น นางปรารถนา พร้อมนายอธิวัฒน์ ได้เดินทางลงพื้นที่ตลาดสดเพื่อดูจุดเกิดเหตุตามที่ปรากฏเหตุการณ์ในคลิป แต่ไม่พบตัว น.ส.เยาวรัตน์ผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่👉ข่าวเด็ดประจำวัน