สาวหลอนข้างบ้าน ขึ้นป้ายภาพคนตาย คู่กรณียื่นคำขาด ต้องขอขมาคนตาย เรื่องถึงจบ

สาวเจอข้างบ้าน ติดป้ายภาพคนตาย หันมาทางบ้านตัวเอง รับมีปัญหาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า แต่ก็ต่างคนต่างอยู่ ด้านคู่กรณียื่นคำขาด ต้องขอขมาคนตาย เรื่องถึงจบ เพราะเหตุผลนี้

วันที่ 9 พ.ค. 67 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพเพื่อนบ้านที่นำรูปผู้เสียชีวิตมาติดไว้บริเวณบ้าน และหันภาพเข้ามาทางบ้านของพี่สาวตนเอง ลงในกลุ่ม “จันทบุรี” เพื่อขอความเห็นว่า แบบนี้ สามารถทำอย่างไรได้บ้าง และว่ายิ่งตกดึก ยิ่งหลอน โดยระบุว่า “แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไหมคะ? (เราขอให้รองนายก อบต. ไปเจรจา ไม่สำเร็จ เราก็ไปขอให้ตำรวจไปช่วยเจรจาอีกรอบ ก็ไม่สำเร็จค่ะ) กลับทะเลาะกันไปอีก ตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลยค่ะ

ปล.1 บ้านเรากับข้างบ้านเคยมีปัญหากัน เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว สมัยรุ่นย่า สาเหตุเป็นเรื่องของเขตที่ดินค่ะ ที่ติดกัน ต่างกล่าวว่าต่างฝ่ายต่างล้ำแดนกัน

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางบ้านเราก่อกำแพงขึ้นมากั้นค่ะ เราไม่รู้ว่ามีกระทบกระทั่งบ้างไหม แต่ที่เราได้เข้ามาอยู่ 13 ปี แล้วต่างคนต่างอยู่ จนกระทั่งข้างบ้านคิดว่าบ้านเราเอากล้องวงจรปิดส่องไปบ้านเขา (ซึ่งเราติดไว้เพื่อส่องดูรถตัวเองในโรงจอดรถ) กับข้างบนเป็นกล้องส่องดูดาว ซึ่งพ่อได้ตั้งไว้ข้างบนระเบียงฝั่งทางบ้านเขาพอดีค่ะ

ปล.2 การเจรจาของเรายินดีที่จะเอากล้องส่องดาวออก หรือให้มาดูตำแหน่งของกล้องวงจรปิดที่สงสัยว่าส่องไปทางบ้านเขาค่ะ หรืออะไรก็ตามที่ทางบ้านเราทำให้เขาไม่สบายใจ ถ้าอะไรทำได้เรายินดีพูดคุย มาแก้ปัญหาร่วมกันได้

ต้องขอขมาคนตาย

แต่ทางฝั่งเขาต้องการให้ทางบ้านเราไปขอขมาพี่สาวเขาที่ตายไป (พี่สาวเขาเพิ่งตาย และการตายของเขาไม่เกี่ยวกับบ้านเราค่ะ) ซึ่งตรงนี้คิดว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทางบ้านเราคงไม่สะดวกที่จะทำตามได้นะคะ ภาพประกอบด้านล่างกลางคืนคือหลอนมากค่ะ” และว่า ป้ายภาพดังกล่าวแขวนอยู่ 2 จุดด้วยกัน

ทั้งนี้ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ ลองนิ่งและเพิกเฉยดูค่ะ! การไม่ตอบสนองกับสิ่งที่เขาทำประหลาดกับเรา จะทำให้เขาจิตฟุ้งซ่านเองค่ะ (คนพวกนี้ยิ่งตอบสนองกลับ เขายิ่งได้ใจค่ะ), ละจะให้เราต้องขอขมาคนตายเพื่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย, งื้ออ คนแบบนี้ก็มีด้วย น่ากลัวมากเลย, มิติใหม่การก่อสงครามข้างรั้ว ฯลฯ

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปพบกับ คุณฝ้าย อายุ 38 ปี พี่สาวของผู้ที่นำเรื่องราวมาโพสต์ในกลุ่ม ซึ่งก็ได้พาไปดูจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นมุมกล้องที่ส่องบริเวณที่จอดรถของตนเอง แต่ขณะนี้กล้องได้หลุดหักห้อยลงมา ส่วนอีกหนึ่งจุดบริเวณริมระเบียงบ้านชั้นสอง เป็นจุดติดตั้งกล้องดูดาวเอาไว้

โดยทางคุณฝ้าย ให้ข้อมูลว่า เราก็ไม่รู้ว่าเขานำภาพมาแขวนเอาไว้ตอนไหน แต่พอถามว่าแขวนนานหรือยัง เขาบอกว่านานแล้ว วันนั้นเราเปิดประตูรถลงไป แล้วรู้สึกว่ามีคนมองอยู่ ก็หันตามไป และเจอว่าเป็นป้าย ก็สงสัยว่าเป็นป้ายอะไร ตอนเช้ามา เราก็ให้แฟนโทรหารองนายก อบต. ว่าให้มาเจรจาให้หน่อยว่าเอาป้ายลงได้ไหม เพราะว่าเด็กกลัว แต่ว่าเจรจาไม่สำเร็จ ซึ่งเราก็มารู้ว่าป้ายนั้นเป็นภาพพี่สาวเขา ซึ่งเสียชีวิตแล้ว จากนั้นเราก็ไปหาตำรวจ ตำรวจก็ส่งสายตรวจมา แต่การเจรจาก็ยังล้มเหลว จากนั้นก็มารู้ว่าเงื่อนไขของเขาคืออยากให้เราทำรางน้ำ และต้องขอขมาคนตาย

ซึ่งเขาให้เหตุผลที่นำป้ายมาติดว่า บ้านเราส่องกล้องวงจรปิดไปทางบ้านเขา โดยเราทำโรงจอดรถใหม่ เราจึงติดกล้องเพื่อส่องรถตัวเอง และมีกล้องส่องดาว ที่อยู่บริเวณระเบียง ซึ่งตรงกับบ้านของเขา

คุณฝ้าย ตลอดเวลา 13 ปีที่ย้ายเข้ามาอยู่ ยืนยันได้ว่า ไม่เคยข้องเกี่ยวกับบ้านข้างๆ หรือมีปัญหากัน ตนเองยอมที่จะติดตั้งรางน้ำตามที่คู่กรณีเรียกร้อง แต่ไม่ขอขมาคนตายอย่างที่เรียกร้องเด็ดขาด และว่า หากเจรจาได้ เอารูปลงได้ ก็อยากให้เอารูปลงเถอะค่ะ เพราะจริงๆ บ้านเรามีเด็ก เราก็กลัว ยิ่งพอเป็นรูปผู้เสียชีวิตเราก็กลัว และมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย ที่นำภาพคนตายหันมาทางบ้านเรา พ่อแม่เราก็อายุเยอะแล้วด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของคู่กรณี พบ นางเอ (นามสมมติ) เผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตนเองจำปีที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ยึดตามเอกสารวันที่ออก น.ส.3 คือปี พ.ศ. 2515 โดยเริ่มแรกจากการแบ่งแนวเขตที่ดิน บ้านของฝ่ายคู่กรณีได้รุกล้ำแนวเขตที่ดินของตนเอง ต่อมาได้มีการสร้างรั้วเป็นกำแพงทึบ กินแนวเขตเข้ามา ต่อมาฝ่ายคู่กรณีได้สร้างหลังคาบ้านโดยไม่ติดตั้งรางน้ำฝน ทำให้น้ำฝนไหลเข้ามาในเขตบ้านของตนเอง ตนเองได้มีการเจรจาแล้วเมื่อประมาณ 5 ปีก่อนหน้านี้ โดยฝั่งบ้านคู่กรณีบอกว่าเดี๋ยวจะแก้ไขติดตั้งรางน้ำฝนให้ จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ติดตั้ง ต่อมาก็เป็นปัญหาเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด ตนเองเห็นและมีภาพถ่ายว่ากล้องหันมาทางบ้านตนเอง ตนเองจึงแจ้งว่าให้หันไป ได้รับคำตอบกลับมาว่ากล้องเสีย เนื่องจากเป็นกล้องแบบหมุนได้

และยังมีกล้องดูดาวที่อยู่บริเวณระเบียงบ้านชั้นสอง ตนก็พบว่าเลนกล้องหันมาส่องทางบ้านตนเป็นส่วนมากอีกเช่นกัน โดยมีภาพถ่ายบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

โดยจากปัญหาที่ดินที่ขัดแย้งมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่า สะสมมาจนถึงรุ่นหลาน ส่วนรูปที่เห็นนั้น เป็นภาพของพี่สาวตนที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2565 เหตุผลที่นำมาแขวน ก็เพื่อบังมุมกล้องเท่านั้น

และสิ่งที่อยากเรียกร้องให้มาขอขมาผู้ตายที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น เนื่องจากป่วยซึมเศร้าจากเรื่องที่ทะเลาะกัน และกลายเป็นมะเร็ง ก่อนเสียชีวิตไปเมื่อปี 2565, ติดตั้งรางน้ำ และต้องการให้สำนึกผิด ซึ่งถ้าทำตามนี้ได้ ก็สามารถจบปัญหาเรื้อรังนี้ได้ 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางคุณฝ้ายยืนยันว่า เรื่องติดตั้งรางน้ำนั้นยอมทำให้ แต่เรื่องที่จะไปขอขมา คงไม่ทำ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาไกล่เกลี่ยหาข้อยุติ.

ติดตามข่าวสาร ประเด็นร้อนต่าง ๆ ได้เลยที่เว็บของเรา : ข่าวเด็ดประจำวัน