ตำรวจ ปทส.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน บุกยึดไม้พะยูงซุกกระท่อมกลางนาและในสระน้ำ ได้ของกลาง 100 กว่าท่อน เตรียมส่งขายนายทุน มีมูลค่าสูงนับล้านบาท ส่วนผู้ต้องสงสัยไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทิ้งพี่สะใภ้ไว้รับหน้าแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ โดยชุด ปทส. พร้อมชุดเตรียมพร้อม นำโดย ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม (หน.ชุด) ร.ต.อ.สันติชัย ธัญวรินทร์กุล, ร.ต.ต.ธวัช เจนรอบ, ร.ต.อ.วัฒนชัย ชมภูพาน รอง สว.กก.สืบสวนฯ และ ด.ต.ทัศพงษ์ วิมสทราสิทธิ์, จ.ส.ต.ณัฐวุฒิ ทศพร ผบ.หมู่ กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 2 ส่วนแยก 2 กองกำลังสุรนารี, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.3, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แนงมุด และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
ได้นำหมายค้นจากศาลจังหวัดสุรินทร์ ตามหมายค้นที่ ค65/2567 ศาลจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเข้าบุกยึดไม้พะยูง ตรวจค้นบ้านเลขที่ 15/1 ม.7 บ้านโพธิ์ศรี ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ หลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจบุกยึดไม้พะยูงที่ถูกลักลอบตัดเขตพื้นที่ ต.ตาเบา อ.ปราสาท เจ้าหน้าที่ชุด ปทส.จึงได้ดำเนินการสืบสวนหาข่าวขยายผลแล้ว จึงได้ทำเรื่องขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสุรินทร์ดังกล่าว
และได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ประกอบด้วย 1. ไม้พะยูงท่อน จำนวน 25 ท่อน ปริมาตร 0.604 ลบ.ม. 2. ไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 92 เหลี่ยม/ชิ้น ปริมาตร 0.282 ลบ.ม. รวมไม้พะยูงของกลาง 117 ท่อน/เหลี่ยม/ชิ้น รวมปริมาตร 0.886 ลบ.ม. รวมเป็นเงินค่าภาคหลวง 93.44 บาท มูลค่าไม้ของกลางประมาณ 292,000 บาท 3. น้ำมันดำ จำนวน 1 กระปุก 4. เลื่อยโซ่ยนต์ไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง 5. เลื่อยโซ่ยนต์เบนซิน จำนวน 1 เครื่อง 6. กบไสไม้ไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง 7. เชือก จำนวน 2 เส้น เทปตลับเมตรยาว จำนวน 1 ตลับ 8. ขวาน จำนวน 3 อัน 9. สายไฟ จำนวน 2 เส้น 10. ชุดประแจ จำนวน 1 ชุด 11. น้ำมันเบนซิน 2 แกลลอน
โดยพบเพียง นางสาวจิราพร แก้วยงกฎ เป็นเจ้าบ้าน ส่วนนายพิชัย หรือใหม่ แก้วยงกฎ ที่นางสาวจิราพร ระบุว่าของกลางทั้งหมดเป็นของน้องเขย คือ นายพิชัย ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาข่าว ขยายผลจากการจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้จากเขตพื้นที่ ต.ตาเบา อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าได้มีการนำไม้พะยูงที่ลักลอบตัดมาได้ นำมาส่งให้แก่ นายพิชัย หรือ ใหม่ แก้วยงกฎ ซึ่งอาศัยอยู่กระท่อมในพื้นที่บริเวณบ้านของ นางสาวจิราพร แก้วยงกฎ ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ โดยได้ใช้สถานที่ข้างกระท่อมแปรรูปไม้พะยูง ส่งขายให้แก่นายทุน และนำไม้พะยูงท่อนซุกซ่อนไว้ในสระน้ำใกล้กระท่อมที่พักอาศัยนั้น
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นในบริเวณกระท่อมดังกล่าวใกล้กันนั้น พบอุปกรณ์แปรรูปไม้ ได้แก่ เลื่อยโซ่ไฟฟ้าดัดแปลง เลื่อยโซ่ยนต์เบนซิน กบไสไม้ไฟฟ้า ขวาน สายไฟ ชุดประแจ น้ำมันเบนซิน น้ำมันดำ ตามรายการของกลางข้างต้น ตรวจสอบริเวณกระท่อมโดยรอบ ใกล้กันนั้นพบไม้พะยูงแปรรูปกองรวมกันอยู่บริเวณโรงเก็บฟาง และรอบกระท่อมที่ นายพิชัย หรือ ใหม่ แก้วยงกฎ ใช้พักอาศัย จำนวน 112 ท่อน/เหลี่ยม และพบไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ในสระน้ำ จำนวน 5 ท่อน จึงได้ทำการตรวจยึดไม้พะยูงและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแปรรูปไม้ไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม นางสาวจิราพร แก้วยงกฎ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าบ้าน หรือผู้ซึ่งดูแลแทนเจ้าบ้าน ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 15/1 ม.7 ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่าตนพักอาศัยอยู่ที่บ้านนี้จริง และเป็นพี่สะใภ้ของ นายพิชัย หรือ ใหม่ แก้วยงกฎ โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า กระท่อมที่เจ้าหน้าที่พบไม้พะยูงแปรรูป และอุปกรณ์ที่ใช้ในการแปรรูปไม้นั้น เป็นกระท่อมที่ นายพิชัย หรือ ใหม่ แก้วยงกฎ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของสามีใช้พักอาศัยนอน
โดยกระท่อม และโรงเก็บฟางคอกวัว อยู่ห่างจากบ้านตนประมาณ 30 เมตร และห่างไปประมาณ 50 เมตร เป็นสระน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบไม้แปรรูปท่อนเหลี่ยมจำนวนหนึ่ง และพบไม้พะยูงที่ยังไม่ได้ทำการแปรรูปอีกจำนวนหลายท่อน และพบไม้พะยูงจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในสระน้ำ
นางสาวจิราพร แก้วยงกฎ แจ้งว่า นายพิชัย หรือ ใหม่ แก้วยงกฎ ได้มาพักอาศัยนอนอยู่ที่กระท่อมดังกล่าวประมาณครึ่งปีแล้ว และมีพฤติกรรมในการตัดไม้และรับซื้อไม้พะยูงในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และนำมาเก็บไว้เพื่อแปรรูปส่งขาย แต่ตนไม่ทราบว่าขายให้ใคร และขณะที่พักนอนอยู่นั้นจะมีรถขนไม้เข้ามาเป็นประจำ และไม่ทราบว่าไม้พะยูงที่ขนมานั้นผิดกฎหมาย เนื่องจาก นายพิชัย หรือ ใหม่ แก้วยงกฎ บอกว่าเป็นไม้ที่รับซื้อมาจากที่ดินมีโฉนด มีเอกสารถูกต้อง
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันบุกยึดไม้พะยูงในที่เกิดเหตุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดไว้ พร้อมได้กล่าวหาว่า “มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11, 48, 69, 70 ฐาน ทำไม้หวงห้าม มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือตรารัฐบาลขายไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิด และพ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ฐาน มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”
ก่อนจะบันทึกเรื่องราว และนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแนงมุด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมอบหมายให้ ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ เป็นผู้ดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน และจะได้มีการออกหมายจับ นายพิชัย หรือ ใหม่ แก้วยงกฎ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับไม้ของกลางได้ใช้ตรา ต.9102 ย.110 ตีประทับที่หน้าตัดไม้ทุกท่อน สำหรับไม้พะยูงของกลางได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.3 เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ แหล่งข่าวรายงานว่า หากไม้พะยูงจำนวนดังกล่าวถูกส่งถึงมือนายทุนแล้ว จะมีมูลค่าสูงนับล้านบาทอีกด้วย.
ติดตามข่าวสาร ประเด็นร้อนต่าง ๆ ได้เลยที่เว็บของเรา : ข่าวเด็ดประจำวัน