ปฏิบัติการซินดูร์ กองทัพอินเดียได้ยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายในปากีสถานและแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถานเมื่อเช้าวันพุธ ที่ผ่านมา
- ปากีสถานอ้างว่า การโจมตีของอินเดียทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บอีก 57 ราย ขณะที่อินเดียระบุว่า ปากีสถานยิงปืนใหญ่ข้ามเส้นแบ่งเขตแคชเมียร์เข้าใส่ฝั่งอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ศพ บาดเจ็บหลายสิบราย
- หลายประเทศออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายอดทนอดกลั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ และเพื่อปกป้องพลเรือน
ความตึงเครียดระหว่างอินเดียกับปากีสถานยังคงพุ่งสูง หลังอินเดียเปิดฉากโจมตีปากีสถานเมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธที่ 7 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา อ้างว่าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้าย 9 จุดในปากีสถานและในแคว้นแคชเมียร์ส่วนที่ปากีสถานควบคุม
ขีปนาวุธของอินเดียเป็นการตอบโต้ การโจมตีนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ที่ปกครองโดยอินเดีย ในเมืองปาฮาลกัม เมื่อ วันที่ 22 เมษายน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ศพ โดยในตอนนั้นกลุ่มติดอาวุธที่เรียกว่า แนวร่วมต่อต้าน ซึ่งเรียกร้องเอกราชให้กับแคชเมียร์ อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีที่เมืองปาฮาลกัม
ทางการอินเดียอ้างว่า เป็นกลุ่มย่อยของกลุ่มติดอาวุธ Lashkar-e-Taiba ซึ่งมีฐานอยู่ในปากีสถาน ขณะที่ทางการปากีสถานปฏิเสธว่า ไม่มีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีที่เมืองพาฮาลกัม และเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกลาง
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดการโจมตี อินเดียได้ระงับการเข้าร่วมในสนธิสัญญาลุ่มน้ำสินธุ ที่ปากีสถานพึ่งพาเป็นแหล่งน้ำสำคัญ ส่วนปากีสถานตอบโต้ด้วยการขู่ว่าจะระงับการเข้าร่วมในข้อตกลงซิมลา ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ลงนามในปี 1972 หลังสงครามอินเดีย-ปากีสถาน ทั้งสองประเทศยังลดความสัมพันธ์ทางการทูตลง และต่างฝ่ายต่างขับไล่พลเมืองของอีกฝ่ายออก
เปิดที่มา ปฏิบัติการซินดูร์
” (Operation Sindoor) ชื่อนี้มาจากผงซินดูร์ หรือผงสีแดงเข้ม เครื่องหมายแสดงสถานภาพการสมรสของสตรีชาวฮินดู โดยสตรีที่แต่งงานแล้วมักจะใช้ผงซินดูร์ในการแสกผมหรือหน้าผาก และหากเป็นหม้ายก็จะเช็ดออก
ในระหว่างการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 22 เมษายน ผู้หญิงหลายคนต้องสูญเสียสามี ซึ่งตกเป็นเป้าหมายเพราะพวกเธอเป็นชาวฮินดู แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับความสนใจจากสื่อ อาทิ นางนาร์วัล หลังจากภาพของเธอที่อยู่ข้างสามีถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์
การที่รัฐบาลอินเดียเลือกใช้ชื่อปฏิบัติการซินดูร์นั้น เป็นการส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะล้างแค้นให้กับหญิงม่ายเหล่านี้ บนโซเชียลมีเดีย กองทัพอินเดียได้ประกาศถึงการโจมตีครั้งนี้ด้วยภาพที่ชัดเจน โดยมีโถซินดูร์ที่หกออกมา ซึ่งมีลักษณะคล้ายเลือดที่กระเซ็นออกมา
ทางด้านวี. กีธา นักประวัติศาสตร์สตรีนิยมที่มีผลงานเขียนเกี่ยวกับเรื่องเพศ วรรณะ และชนชั้น กล่าวว่าชาตินิยมฮินดูส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยมุมมองโลกของผู้ชาย ซึ่งผู้หญิงมีบทบาทเป็นวัตถุที่ต้องปกป้องหรือเป็นแม่ที่คอยยุยงให้ผู้ชายพิสูจน์ความเป็นวีรบุรุษ
เป้าหมายการโจมตี
กองทัพอินเดียอ้างว่าได้โจมตี โครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้าย โดยโจมตีองค์กรต่างๆ รวมถึง LeT และ Jaish-e-Muhammad ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่มีฐานอยู่ในปากีสถาน และอ้างว่ารับผิดชอบในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งทำให้ทหารกึ่งทหารอินเดีย 40 นายเสียชีวิตในเมืองปูลวามา รัฐแคชเมียร์ ที่อินเดียปกครอง
ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ นายวิกรม มิศรี รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ยืนกรานว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธนั้น มุ่งเน้นไปที่การรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้ายและทำให้ผู้ก่อการร้ายที่อาจจะถูกส่งมายังอินเดียไม่สามารถทำอะไรได้
พันเอกโซเฟีย คูเรชิ เจ้าหน้าที่ทหารอินเดีย และนาวาอากาศโท โยมิกา ซิงห์ ร่วมการบรรยายสรุปเกี่ยวกับปฏิบัติการ โดยระบุว่า 5 ใน 9 จุดที่อินเดียโจมตีนั้นอยู่ในแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถาน ส่วนอีก 4 แห่งอยู่ในแคว้นปัญจาบ ได้แก่ บาฮาวัลปุระ มูริดเก ชาการ์การห์ และหมู่บ้านใกล้เซียลโกต ระหว่างการบรรยายสรุป กองทัพอินเดียได้แสดงแผนที่ซึ่งระบุว่ามี ค่ายผู้ก่อการร้าย 21 แห่งในปากีสถานและแคชเมียร์ที่ปากีสถานปกครองอยู่.
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน