คำเตือนข่าวสะเทือนใจ! วัยรุ่นญี่ปุ่นตกตึก 12 ชั้น
มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ในเมืองโยโกฮามาของญี่ปุ่น หลังจากเด็กสาววัยรุ่นตกลงมาจากศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง และกระแทกกับคนเดินถนนที่อยู่ด้านล่าง
นักเรียนมัธยมปลายวัย 17 ปี ตกลงมาจากอาคารในย่านการค้าที่พลุกพล่านของเมืองโยโกฮามา และกระแทกผู้หญิงวัย 32 ปี ซึ่งกำลังออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 ส.ค.)
ทั้งสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเด็กสาววัย 17 ปี นักเรียนมัธยมปลายจากจังหวัดชิบะ เสียชีวิตในอีก 1 ชั่วโมงต่อมา และผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทในโยโกฮามา ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาไม่นาน โดยตำรวจสันนิษฐานว่าเด็กสาวพยายามฆ่าตัวตาย
จากสถิติอย่างเป็นทางการ พบว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในญี่ปุ่น มักก่อเหตุฆ่าตัวตายในวันที่ 1 กันยายน ซึ่งเป็นวันก่อนเปิดเทอมใหม่ มากกว่าวันอื่นๆ โดยเมื่อปีที่แล้ว พบว่าเด็ก 513 คนในญี่ปุ่นฆ่าตัวตาย โดย “ปัญหาในโรงเรียน” เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
นักเรียนที่ไม่ต้องการกลับไปโรงเรียนเรียกว่า “ฟูโตโกะ” หรือ “คนที่ไม่ไปโรงเรียน” จากการสำรวจของกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น พบว่าเหตุผลหลักที่เด็กเหล่านี้มักเลี่ยงการไปโรงเรียน ได้แก่ สถานการณ์ในครอบครัว ปัญหาส่วนตัวกับเพื่อน และปัญหาการถูกกลั่นแกล้ง
เหตุการณ์ล่าสุดในโยโกฮามานั้น คล้ายกับเหตุการณ์ที่คล้ายกันในปี 2563 เมื่อเด็กชายวัย 17 ปีกระโดดจากหลังคาของศูนย์การค้า ทำให้เด็กนักเรียนหญิงวัย 19 ปีเสียชีวิตในย่านที่พลุกพล่านของเมืองโอซากา
ในขณะนั้น เด็กชายคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ซึ่งหมายความว่าครอบครัวของเขาต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ครอบครัวของเหยื่อ อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกยกเลิกในเวลาไม่นานหลังจากนั้น และจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ระบุว่ามีผู้กระทำความผิดใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
แม้ว่าอัตราการฆ่าตัวตายของญี่ปุ่นจะลดลงเรื่อยๆ ในกลุ่มประชากรทั่วไป แต่กลับเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในกลุ่มจี7 ที่การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของกลุ่มวัยรุ่น
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน