สามเณรรับถ่ายรูปเปลือยอก ปัดตอกเสาเข็มจนกุฏิสั่น สำนักพุทธฯ สั่งสอบ

สามเณรรับถ่ายรูปเปลือยอก จนหลุดว่อนเน็ต แต่เป็นภาพนานแล้ว ปัดตอกเสาเข็มจนกุฏิสั่น ขณะที่เลขาเจ้าอาวาสวัดดังชี้แจง ไม่ได้เป็นพระในสังกัด ด้านสำนักพุทธฯ สั่งสอบแล้ว

วันที่ 29 เม.ย. 68 จากกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์เรื่องราวของสามเณรรายหนึ่ง ที่อ้างว่าจำวัดอยู่ในวัดดัง มีพฤติกรรมถอดจีวรโชว์หน้าอก พร้อมกับเล่นตอกเสาเข็มกับพระภิกษุรูปหนึ่งในวัด จนเป็นข่าวอื้อฉาวและสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดจักรวรรดิราชาวาส พบกับ พระมหาสุชาติ ปุสฺสเทโว เลขานุการเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส เผยว่า จากการสอบถาม สามเณรเอ ที่อ้างว่าอยู่ในคลิป เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่ แต่เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เสียชื่อเสียง ซึ่งตอนนี้สามเณรเอก็ได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้ว ส่วนพระที่อ้างว่าเป็นพระของวัดนั้น พระก็ยืนยันว่าคนในคลิปไม่ใช่ตนเอง และหลังจากนี้ก็จะมีการตั้งกรรมการสอบ 

นอกจากนี้ สามเณรเอ ไม่ใช่พระในสังกัดของวัดจักรวรรดิราชาวาส แต่เป็นสามเณรที่ติดตามเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งที่นครพนม ซึ่งพระท่านเดินทางมาหาหมอ สามเณรก็เดินทางมาด้วย และมาจำวัดที่อยู่ที่นี่ ส่วนที่มีภาพพระ เณร ถือขวดเหล้า จากการตรวจสอบ เป็นพระจากต่างจังหวัดไม่ได้สังกัดที่วัดแห่งนี้ 

อย่างไรก็ตาม นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส ซึ่งเป็นวัดที่ปรากฏเป็นข่าว โดยได้พบกับผู้ช่วยเจ้าอาวาส ซึ่งออกมาเปิดเผยถึงความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์อื้อฉาวครั้งนี้ซึ่งท่านยืนยันว่าสามเณรที่ตกเป็นข่าวมิใช่สามเณรสังกัดวัดแห่งนี้ แต่เป็นสามเณรที่มาจากวัดต่างจังหวัด โดยสามเณรรูปดังกล่าวเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมาอุปัฏฐากพระเถระรูปหนึ่งที่เข้ารับการรักษาอาการอาพาธ และขอจำพรรษาชั่วคราวที่วัดแห่งนี้ กระทั่งพระเถระหายดีแล้ว จึงเดินทางกลับวัดเดิม แต่สามเณรมีการยอมรับว่ารูปที่โชว์หน้าอกเป็นตัวเองจริง ๆ ซึ่งถ่ายไว้นานแล้ว ทำไปด้วยความคึกคะนอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์

ส่วนพระหนุ่มที่ปรากฏในคลิปอื้อฉาว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสกล่าวว่าเป็นพระในสังกัดวัดจริง จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง เจ้าตัวให้การภาคเสธ โดยได้ยืนยันความบริสุทธิ์ด้วยการไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจในท้องที่

อย่างไรก็ตาม พศ.จะสืบสวนและตรวจสอบคลิปดังกล่าวต่อไป เพื่อตามหาผู้ที่อยู่ในคลิป เพราะยอมรับว่าสร้างความเสื่อมเสียต่อวงการคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยรวม

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน