หลานร้องลั่น แตกตื่นทั้งบ้าน มีคนบุกรุกกลางดึก ระดมตำรวจ-กู้ภัยค้นหาแต่ไม่เจอ เผยนาทีประจันหน้าคนร้าย เจ้าหน้าที่มึนหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 21 พ.ค.2567 ร.ต.ท.วศิน บูรณศักดิ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุมีคนบุกรุกเข้ามาในบ้านยามวิกาล บริเวณหมู่บ้านหนองหูช้าง ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรายงาน พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นลักษณะห้องแถวให้เช่าชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง ผนังปูน ตั้งอยู่ในซอยอู่ตาลี้ ม.2 บ้านหนองหูช้าง บ้านเช่าหลังที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 5 ภายในมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ประตูด้านหลังห้องเป็นลักษณะประตูไม้สภาพเก่า ด้านหน้าเป็นประตูเหล็กเลื่อน
จากการตรวจสอบพบฝ้าเพดานภายในห้องน้ำชำรุดพังหลุดห้อย และมีเสียงดังกุกกักลักษณะเหมือนมีตัวอะไรเดินอยู่บนฝ้า ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ และรถอุปกรณ์ส่องสว่าง พร้อมบันไดเข้าร่วมให้การสนับสนุนหาตัวผู้ก่อเหตุ ล่าสุดยังไม่พบตัว
ด.ช. โก๊ะ (นามสมมติ) กล่าวว่า ขณะที่ตนนอนอยู่ในห้องนอนภายในห้องเช่าเลขที่ 5 เพียงลำพัง ส่วนยายและพี่สาวคนอื่น ๆ นอนอยู่ในห้องติดกัน ตนได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินดังกุกกักอยู่หลังบ้าน ตนรู้สึกกลัวจึงหยิบมีดเล่มเล็กออกมา 2 เล่ม แล้วออกจากห้องมาดู
ด.ช.โก๊ะ กล่าวต่อว่า ก็มาจ๊ะเอ๋ประจันหน้ากับคนร้ายหัวขโมย ลักษณะเป็นชายร่างท้วมไม่สูง สวมหมวกคุมใบหน้า ใส่เสื้อสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ใส่รองเท้าผ้าใบ สวมถุงมือ และใช้ถุงพลาสติกสวมหุ้มรองเท้า
ด.ช.โก๊ะ กล่าวอีกว่า ด้วยความตกใจกลัว จึงได้ใช้มีดแทงเข้าไปที่ท้อง 1 ครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าหรือไม่ จากนั้นจึงวิ่งไปหยิบกุญแจไขประตูหน้าบ้านแล้วร้องเรียกตะโกนให้คนช่วย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่าห้องเช่าหลังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องเลขที่ 5 ประตูหลังบ้านมีลักษณะชำรุดปิดสนิทไม่สามารถเปิดได้ ส่วนฝ้าเพดานในห้องน้ำมีลักษณะชำรุด หลุดร่วงเป็นช่องขนาดใหญ่
กู้ภัยจึงได้ขออนุญาตปีนขึ้นไปบนฝ้าจากห้องเช่าเพื่อนบ้านข้างเคียง แล้วไปเดินบนกำแพงปูนที่เป็นอิฐบล็อก เพื่อสำรวจบนฝ้าว่ามีใครหลบซ่อนตัวอยู่หรือไม่ เนื่องจากบนพื้นฝ้าไม่สามารถเดินได้ และไม่สามารถขึ้นจากห้องจุดเกิดเหตุได้
โดยฝ้าเพดานทุกห้องเป็นลักษณะฝ้าเพดานฉาบเรียบยึดฝังด้วยน็อตตะปูเกลียว ไม่มีช่องโหว่ให้ลงไปได้ แม้แต่เพียงห้องเดียว จึงเป็นข้อสงสัยให้เจ้าหน้าที่ว่าหากมีคนร้ายหวังเข้ามาก่อเหตุจริงจะหลบหนีไปได้ทางไหน
เนื่องจากหากลงมาก่อเหตุภายในห้องเลขที่ 5 แล้ว ประตูหลังบ้านก็ออกไม่ได้ หากปีนฝ้าเพดานขึ้นไปก็มีความยากลำบากและต้องมีรอยเท้าการปีน หากปีนขึ้นจากห้องเพื่อนบ้านข้างเคียงแล้วจะสามารถลงห้องไหนได้ เนื่องจากฝ้าทุกแผ่นยึดด้วยน็อตสกรู
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความประสงค์ให้เจ้าของบ้านทราบว่า หากต้องการแจ้งความก็ให้ตามไปแจ้งความที่โรงพักต่อไป และได้รับปากว่าจะให้สายตรวจนำรถมาลาดตระเวนเป็นระยะเพื่อสร้างความอบอุ่นใจให้กับชาวบ้านต่อไป
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่👉ข่าวเด็ดประจำวัน