ผู้โดยสารพก “หินบำบัด” ไม่ผ่านเครื่องตรวจสนามบิน อึ้งค่ารังสีสูงกว่าปกติ 1,050 เท่า

หินบำบัด

ผู้โดยสารพก “หินบำบัด” ไม่ผ่านเครื่องตรวจสนามบิน อึ้งค่ารังสีสูงกว่าปกติ 1,050 เท่า

สำนักข่าว CCTV ของจีน รายงานว่า เมื่อกระแสการดูแลสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หินบางชนิดที่อ้างว่ามีคุณสมบัติเสริมสุขภาพก็กลายเป็นที่ต้องการในตลาด แม้รูปลักษณ์จะดูธรรมดา แต่ก็มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยแห่ซื้อไปสวมใส่

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งถูกศุลกากรสกัดกั้นขณะพยายามนำ “หินบำบัด” เข้าประเทศ เรื่องนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

นักท่องเที่ยวนำ “หินบำบัด” เข้าประเทศถูกตรวจจับ

เมื่อไม่นานมานี้ ศุลกากรสนามบินโจวสุ่ยจื่อ เมืองต้าเหลียน ตรวจพบหินบำบัดในกระเป๋าสัมภาระของนักเดินทางรายหนึ่ง และเมื่อตรวจสอบก็พบว่ารังสีจากหินดังกล่าวสูงกว่าค่าพื้นฐานถึง 1,050 เท่า

เจี่ย หย่งหนาน หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบผู้โดยสาร สำนักงานศุลกากรสนามบินโจวสุ่ยจื่อ เผยว่า “เมื่อนักเดินทางรายนี้เดินผ่านประตูตรวจจับรังสี เกิดการแจ้งเตือนขึ้น เขาชี้แจงว่าเป็นหินบำบัด จากการตรวจวัดพบว่าระดับรังสีอยู่ที่ 105 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าค่าปกติ 1,050 เท่า ผลตรวจยืนยันว่ามีสารกัมมันตรังสี ทอเรียม-232 (Th-232)”

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทอเรียม-232 เป็นสารกัมมันตรังสีที่องค์การอนามัยโลกจัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 หากได้รับเป็นเวลานานอาจทำให้ผมร่วง อาเจียน เลือดกำเดาไหล และในรายที่รุนแรงอาจก่อให้เกิดมะเร็ง

ตามเกณฑ์ของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ระดับความปลอดภัยของการรับรังสีสำหรับบุคคลทั่วไปคือไม่เกิน 1 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี

ศ. อวี๋ เหวิน จากมหาวิทยาลัยปักกิ่งอธิบายว่า “ค่ารังสีพื้นฐานในสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ประมาณ 0.1 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ถ้ารับสะสมทั้งปีจะได้ประมาณ 1 มิลลิซีเวิร์ต แต่หากหินดังกล่าวมีระดับรังสีสูงกว่าพื้นฐานถึง 1,000 เท่า การสะสมรังสีในหนึ่งปีจะใกล้เคียงกับ 1 ซีเวิร์ต หรือ 1,000 มิลลิซีเวิร์ต ซึ่งถือว่าสูงมาก”

หินบำบัด

ศุลกากรพบสิ่งของรังสีเกินมาตรฐานหลายครั้ง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบวัตถุกัมมันตรังสีจากสัมภาระของผู้โดยสาร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบหิน สร้อยคอ และวัตถุที่อ้างว่าบำบัดสุขภาพจำนวนมากที่มีรังสีสูง

  • ธันวาคม 2019 สนามบินเดียวกันตรวจพบ “จานหินพลังงาน” ชื่อว่า “เครื่องเรโซแนนซ์พลังงานควอนตัมธาตุทั้งห้า” ซึ่งทำให้เครื่องตรวจรังสีแจ้งเตือน ผลตรวจพบว่ามีทอเรียม-232 และระดับรังสีสูงถึง 112.4 ไมโครซีเวิร์ต หรือเกินมาตรฐาน 1,120 เท่า ผู้โดยสารเล่าว่าลูกสาวสวมใส่แล้วมีเลือดกำเดาไหลบ่อยครั้งไม่ทราบสาเหตุ และเขาสงสัยว่าอาการดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับสารกัมมันตภาพรังสีที่มากเกินไป
  • พฤศจิกายน 2021 ศุลกากรเซี่ยงไฮ้ตรวจพบไม้สนจากต่างประเทศที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 และได้ส่งคืนกลับประเทศทันที
  • ธันวาคม 2022 ศุลกากรตงกวานตรวจพบสินค้าส่งออกทางอีคอมเมิร์ซที่แจ้งว่าเป็น “ของประดับ” แต่แท้จริงเป็นหมอนและที่นอน “พลังงานไอออนลบ” ซึ่งมีธอเรียม-232 และรังสีสูงกว่าค่าพื้นฐานถึง 300 เท่า
  • กรกฎาคม 2024 ศุลกากรสนามบินเสิ่นหยางตรวจพบสร้อยคอหินบำบัด 15 เส้นจากผู้โดยสารรายหนึ่ง ซึ่งมีรังสีถึง 46.85 ไมโครซีเวิร์ต/ชม. เกินค่าพื้นฐาน 468 เท่า โดยผู้โดยสารระบุว่าซื้อจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งคนขายอ้างว่าช่วยเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และยืดอายุขัย

ผลการตรวจวิเคราะห์พบว่า หินดังกล่าวมีธาตุกัมมันตรังสีคือ แบเรียม-133 และทอเรียม-232 ซึ่งทั้งสองชนิดถูกองค์การอนามัยโลกจัดเป็นสารก่อมะเร็ง

รังสีสูงขนาดนี้ อันตรายต่อร่างกายแค่ไหน?

ศ.อวี๋ เหวิน อธิบายว่า “รังสีมีอยู่ในธรรมชาติมาแต่กำเนิด แต่หากเกินขีดจำกัดก็อาจก่ออันตรายได้ ระดับอันตรายขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีและระยะเวลาที่สัมผัส”

เมื่อถามว่าได้รับรังสีสูงนาน ๆ จะทำให้เป็นมะเร็งหรือไม่ ศ.อวี๋ เหวินตอบว่า  “ยิ่งได้รับรังสีสูง ความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น มะเร็ง ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น แต่อย่าลืมว่ามีความแตกต่างระหว่างบุคคล เช่น คน 100 คนที่ได้รับรังสีเท่ากัน อาจมีเพียงบางคนที่เป็นมะเร็ง อีกหลายคนอาจไม่เป็นเลย”

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้สารกัมมันตรังสีบางชนิดถูกใช้ทางการแพทย์ได้ แต่สำหรับวัตถุที่ไม่ชัดเจน ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน เช่น หินพลังงาน ควรระวังให้มาก และระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้สิ่งเหล่านี้บังหน้าเพื่อหลอกลวงหรือทำธุรกิจผิดกฎหมาย

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน