อาเขยยิงหลานกับแฟน 20 ปี ชักปืนรัวยิงหลานกับแฟน ดับ 2 ศพ บอกตั้งใจยิงทิ้งทั้งคู่ เพราะถ้ายิงคนเดียวกลัวอีกคนกลับมาแก้แค้น อ้างปมเหตุถูกหยามมาตลอด หนักสุดโดนคนตายตบหน้า
วันที่ 30 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ร.ต.ท.อารอฟัต บินยูโซ๊ะ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันภายในซอยตรงข้ามกับซอย 5 ถนนศุภสารรังสรรค์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผกก., พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ธีรวุฒิ แสนอินทร์ สว.สส. พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นซอยตันอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ราว 100 เมตร จุดที่ยิงกันอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับอู่ซ่อมรถยนต์ มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายพงษ์ศักดิ์ นันทบุตร อายุ 36 ปี และ น.ส.กิตติยา สุกระมณี อายุ 33 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน โดยถูกกระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. จำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่เร่งนำทั้งสองคนส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อาเขยยิงหลานกับแฟน
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุระชา สุกระมณี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นพ่อของสามีภรรยาคู่นี้ ถูกตีด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะจนแตก ตามร่างกายมีรอยช้ำจากการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ส่วนผู้ก่อเหตุก็ยืนรอมอบตัวกับตำรวจอยู่ภายในอู่ซ่อมรถ ทราบชื่อ นายบุญหนัก วงศ์ชะอุ่ม อายุ 64 ปี หรือช่างหนุ่ม ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ และเป็นอาเขยของผู้เสียชีวิต อาเขยยิงหลานกับแฟน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 9 มม. ตกอยู่ในซอกข้างเครื่องซักผ้า 1 กระบอก และแม็กกาซีนที่ยิงหมดแม็กตกอยู่บนพื้น ซึ่งปืนที่พบนั้นเป็นปืนมีทะเบียนของช่างหนุ่ม นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. และหัวกระสุนในที่เกิดเหตุ ทั้งข้างรถเก๋งและภายในบ้านอีกจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเป็นญาติพี่น้องกันเอง โดยนายบุญหนัก หรือช่างหนุ่ม คนยิง มีศักดิ์เป็นอาเขยของผู้ตาย แต่ว่าทั้งสองฝ่ายแทบจะตัดญาติ ไม่คุยกันมานานหลายสิบปี โดยเมื่อเช้านี้ นายบุญหนัก ขับรถเบนซ์จากบ้านพักที่ อ.นาหม่อม มาที่อู่เพื่อมาเปิดอู่ซ่อมรถตามปกติ แต่ว่ามีรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ของ น.ส.กิตติยา จอดอยู่ชิดติดอยู่กับอู่ ทำให้ช่างหนุ่มถอยรถเก๋งของลูกค้าเข้าไปซ่อมไม่ได้ ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกัน
ต่อมา นายพงษ์ศักดิ์ สามีซึ่งขับรถกลับมาจากส่งลูกค้า และมาจอดหน้าบ้าน ก็ถูกช่างหนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าอู่ เดินไปใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ 4-5 นัด จนรถไหลไปชนกับท้ายรถเก๋งของช่างหนุ่ม จากนั้นช่างหนุ่มก็เดินเข้าไปในบ้าน กระหน่ำยิง น.ส.กิตติยา อีกคน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าอู่ช่างหนุ่มบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ตลอด
ซึ่งตอนที่เข้าไปยิง น.ส.กิตติยา นั้น นายสุระชา ซึ่งเป็นพ่อของคนที่ถูกยิง และขายขนมอยู่หน้าปากซอยกับภรรยา ได้ยินเสียงปืนจึงรีบวิ่งมาดูและพบกับช่างหนุ่มที่อยู่ในบ้านพอดี ทั้งคู่จึงเกิดการยื้อแย่งปืนกันและชกต่อยกันขึ้น ทำให้ลุงต้อยถูกตีด้วยปืนหัวแตกเลือดอาบไปอีกคน
จากการสอบถาม นางดวงจันทร์ สุกระมณี อายุ 69 ปี ภรรยาของลุงต้อยที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ เล่าว่า ช่างหนุ่มมีศักดิ์เป็นน้องเขยของลุงต้อย สามีตนเอง และมีศักดิ์เป็นอาเขยของลูกสาวกับลูกเขยที่ถูกยิง ตอนเกิดเหตุตนกับสามี กำลังขายขนมอยู่หน้าปากซอย และเห็น นายพงษ์ศักดิ์ ลูกเขย ขับรถเก๋งกลับเข้าบ้าน ทีแรกจะเรียกแล้วว่าอย่าเข้าไป เพราะคิดอยู่แล้วว่าเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจ เพราะว่าลูกสาวมีเรื่องทะเลาะกับช่างหนุ่มอยู่ก่อนแล้ว แต่ห้ามไม่ทัน
ผ่านไปราว 5 นาที ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด จึงคิดว่าช่างหนุ่มน่าจะยิงลูกเขยที่เพิ่งขับรถเข้าไปแน่ ตนกับสามีก็รีบวิ่งมาดู พบว่าลูกเขยถูกยิงได้รับบาดเจ็บอยู่ในรถ พอเข้าไปดูในบ้านก็พบลูกสาวนอนอยู่กับพื้นบอกว่าถูกยิง ตอนนั้นช่างหนุ่มยังอยู่ในบ้าน สามีจึงเข้าไปแย่งปืนและชกต่อยกันขึ้นทำให้สามีถูกตีเข้าที่หน้าผากจนเลือดอาบและถูกกระทืบอีกหลายครั้ง จากนั้นช่างหนุ่มก็เดินออกไปมือเปล่า เพราะทำปืนตกไว้ในบ้านช่วงที่ชกต่อยกัน
ป้าดวงจันทร์ บอกว่า ปมเหตุที่ทำให้มีเรื่องกับช่างหนุ่ม เริ่มมาจากช่างหนุ่มสร้างอู่รุกล้ำกินที่บ้านของตน จึงกลายเป็นปัญหาระหองระแหงกันมาตลอด และพักหลังก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเสียงเครื่องยนต์และกลิ่นน้ำมัน ทำให้ลูกสาวร้องเรียนไปยังเทศบาล ทำให้ช่างหนุ่มไม่พอใจ และหลายสิบปีที่ผ่านมาทั้งสองครอบครัวแม้จะเป็นพี่น้องกันแต่ว่าแทบจะตัดขาดจากความเป็นญาติ ไม่มองหน้า ไม่คุยกันเลย และมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ่อย เพราะต่างฝ่ายต่างไม่พอใจกันทั้งเรื่องที่จอดรถ ซึ่งช่างหนุ่มไม่พอใจที่ไม่จอดรถกีดขวางทางเข้าอู่ และเรื่องของเสียงดังจากอู่ แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นต้องยิงกัน
ป้าดวงจันทร์ บอกด้วยว่า เคยพูดคุยกับสามี ลูกสาวและลูกเขยว่าให้คุยกัน เคลียร์ใจกัน แต่ว่าทุกอย่างมันสายเกินไป ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมหันหน้ามาคุยกัน
ขณะที่ นายบุญหนัก หรือช่างหนุ่ม เล่าว่า สาเหตุเริ่มมาจากเมื่อเช้านี้ทะเลาะกับ น.ส.กิตติยา หลานสาวก่อน เพราะจอดรถเก๋งติดอยู่กับอู่ ทำให้ถอยรถเข้าไปซ่อมในอู่ไม่ได้ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเลื่อนให้และชักหน้าใส่ ตนก็บอกว่าได้เดี๋ยวเจอกัน และพูดว่าจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ให้ดู เลยพกปืนยืนรออยู่หน้าอู่ เพื่อรอให้นายพงษ์ศักดิ์ กลับมา เพื่อที่จะยิงทีเดียวทั้งสองคนไม่ให้เหลือ เพราะกลัวว่าหากไม่ยิงทั้งคู่ ภรรยาของเขาจะอยู่ลำบาก อาจจะมีคนกลับมาแก้แค้น พอนายพงษ์ศักดิ์ หลานชายขับรถเก๋งมาจอดหน้าบ้าน จึงเดินไปยิงทันที และตามไปยิงหลานสาวที่อยู่ในบ้าน
ช่างหนุ่ม บอกว่า ตนเก็บสะสมความคับแค้นใจมา 20 ปีเต็ม บางครั้งก็ถูกพูดจาถากถาง บางครั้งเวลามีเรื่องกันก็ถูกด่าพ่อล่อแม่และพูดจาท้าทาย ที่หนักสุดคือเมื่อราว 4 ปีก่อนเคยถูก นายพงษ์ศักดิ์ หลานชายตบหน้า และเก็บความแค้นไว้ในใจรอวันสะสาง และเตรียมตัวเตรียมใจมาหลายปี และวันนี้ก็เคลียร์งานในอู่ไว้เรียบร้อยแล้ว กะว่าจะเอาให้ตายทั้งคู่ หลังก่อเหตุก็ไม่คิดจะหลบหนียอมมอบตัวกับตำรวจแต่โดยดี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวช่างหนุ่ม ไปสอบสวนที่สภ.หาดใหญ่ ก่อนเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาช่างหนุ่ม 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยไม่ใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน