ผลตรวจพิสูจน์ เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน เป็นโรงงานที่สั่งปิด-ห้ามจําหน่าย กลับถูกใช้สร้างตึกสตง.

เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

ผลตรวจพิสูจน์ เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

ทีมกู้ภัยพบศพร่างเหยื่อเพศหญิงใต้ซาก อาคาร สตง.ที่ถล่มเพิ่มอีก 2 รวมเป็น 13 ศพ ยังสูญหายอีก 73 ราย ส่งตรวจอัตลักษณ์ที่ นิติเวช รพ.ตำรวจ “ชัชชาติ”ยันยังไม่หมดหวังพบผู้รอดชีวิตถึงแม้ว่าครบ 72 ชม.แล้ว ทีมกู้ภัยทั้งไทย-เทศยังลุยค้นหาต่อเนื่อง “นายกฯอิ๊งค์” ลงพื้นที่เกิดเหตุหลังจากนั้นรีบเดินทางกลับ รองผู้ว่าฯ กทม.แจง เพราะทีมกู้ภัยพบสัญญาณชีพ ใต้อาคารเลยต้องการความเงียบ นายกฯเปิดทางให้เร่ง ทำงานขอเดินทางกลับ กระทรวงอุตสาหกรรมเชิญหลาย หน่วยงานตรวจสอบคุณภาพเหล็กที่ใช้ก่อสร้างตึก สตง. พบผลิตมาจาก 3 บริษัท เร่งผลการตรวจสอบว่าเป็นบวกหรือลบ ถ้าไม่ผ่านมาตรฐาน มอก.ฟันไม่เลี้ยงแน่ กระทรวงพาณิชย์ส่งทีมไปบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ที่ได้สัมปทานร่วมสร้างตึกที่ถล่ม ตะลึงไม่มีคนทำงาน เร่งตรวจสอบทั้งผู้ถือหุ้นและกรรมการทุกคน ละเอียดยิบ ขุดประเด็นมีนอมินีหรือไม่ ด้านอิตาเลียนไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียตึก สตง.ถล่ม พร้อมให้ความช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเต็มที่ ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศเมียนมาพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2,056 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 3,900 คน และสูญหายมากกว่า 270 คน

กรณีเกิดแผ่นดินไหวบริเวณเมืองลอยกอ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ลึกลงไปประมาณ 10 กม. วัดความรุนแรงขนาด 8.2 นอกจากจะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ตึกรามบ้านช่องและสาธารณูปโภคในประเทศเมียนมาแล้ว แรงสั่นสะเทือนยังแผ่ลงมาถึงพื้นที่ประเทศไทย ตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ ที่ห่างจากจุดแผ่นดินไหวในเมืองมัณฑะเลย์ประมาณ 800 กม.ลงมาถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร สร้างความแตกตื่นให้ผู้ที่อยู่บนอาคารสูง พากันหนีออกมาบนพื้นราบ เนื่องจากไม่เคยประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดนี้มาก่อน นอกจากนี้แรงสั่นสะเทือนยังทำให้อาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มลงมา มีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนับร้อยคน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งช่วยเหลือ ผู้ที่ยังมีสัญญาณชีพที่ติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพังออกมาอย่างเร่งด่วน

ทีมกู้ภัย USAR ทำงานต่อเนื่อง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 30 มี.ค. บริเวณจุดเกิดเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย USAR Thailand นำอุปกรณ์ขึ้นกระเช้าเครนไปยังด้านบนซากอาคารถล่มเพื่อค้นหาผู้สูญหาย หลังมีรายงานว่าพบสัญญาณชีพผู้ติดค้าง แต่เจ้าหน้าที่ใช้ได้แค่เครื่องมือเบาขึ้นไปค้นหา ส่วนเครื่องจักรขนาดใหญ่ใช้รอบนอกเกรงกระทบโครงสร้าง นอกจากนี้ยังใช้โดรนตรวจสอบบนซากอาคารใช้เวลากว่า 2 ชม. หลังจากนั้นนำข้อมูล มาสรุปความคืบหน้าที่กองอำนวยการร่วม

ครบ 72 ชม.แต่ยังไม่หมดหวัง

ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แผ่นดินไหวกรุงเทพ มหานคร เวลา 10.00 น. วันที่ 31 มี.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าวความคืบหน้าการติดตามผลกระทบสถานการณ์แผ่นดินไหวในส่วนที่อาคาร สตง.ถล่มว่า วันที่ 31 มี.ค. จะครบ 72 ชม. ถือเป็นช่วงวิกฤติในการค้นหาผู้รอดชีวิต สั่งการให้เดินหน้าต่อ ประชุมกับผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเข้ามาช่วย คิดว่ายังมีโอกาสพบผู้รอดชีวิต ปรับยุทธวิธีตลอด จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาในโลก แม้ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ยังมีผู้รอดชีวิต เรายังไม่หมดหวัง จะกี่ชีวิตหรือชีวิตเดียวก็มีค่า เราต้องพยายามต่อ จะเน้นตรวจสอบ โซนบีและโซนซี ซึ่งเป็นปล่องลิฟต์และบันไดหนีไฟ จากการสอบถามที่รอดมาเป็นคนที่วิ่งออกทางบันไดหนีไฟ

ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกร่วมวางแผน

“ขณะนี้มีหลายชาติเข้ามาร่วม มีผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ส่วนที่มีคนบ่นว่าการทำงานล่าช้า ขอชี้แจงว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ต้องทำอย่างระมัดระวังและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ตอนนี้หน้างานมีคนพร้อมอุปกรณ์พร้อม ส่วนเรื่องปัญหาที่อาจเป็นไปได้คือ ปัญหาเศษปูนที่ตกลงมาเป็นผง ถ้าฝนตกแรงอาจสะสมแข็งตัวเป็นก้อนหนักขึ้น แต่ไม่ใช่ปัญหาหลักของทีมกู้ภัย สำหรับการขอระดมอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างมีเต็มหน้างาน ขณะนี้มีครบถ้วนทั้งเครน 600 ตัน 500 ตัน รอสแตนด์บาย ส่วนการบริจาคไม่ได้มีอะไรที่ต้องการ น้ำอาหาร ของบริจาคเต็มพื้นที่อยู่แล้ว” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

ให้ทหารคุมพื้นที่คนเข้าออก

นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า สำหรับข้อจำกัดแรกคือ การกำหนดจุดผู้รอดชีวิต ไม่ใช่กำหนดง่ายๆเพราะมองไม่เห็น ต้องใช้ตัวสแกนมีจุดที่เห็น 3-4 คน แต่ไม่แน่ใจว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ ส่วนพื้นราบ 2-3 วันแรกใช้ K9 เข้าไปคอนเฟิร์มบนซากปรักหักพังได้เลย และต้องใช้คนขึ้นกระเช้าเครนไปหย่อนทีมทำงานครั้งละ 20 นาที เพราะเหนื่อย ต้องระวังเรื่องการสไลด์ อุปสรรคการรื้อโครงสร้างต่างๆที่ยุบตัวลงมาแบบแผ่นแพนเค้กฝังทับกัน มีผู้อยู่ด้านล่างต้องเจาะเข้าไป ทีมจากนานาชาติต้องทำเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขอเน้นย้ำว่าพื้นที่นี้ห้ามเข้าไปตามกฎหมาย ห้ามบุคคลเข้าออก คนที่นำเอกสารออกมาถือว่าผิดกฎหมายแจ้งความแล้ว มีหน่วยงานทหารควบคุมการเข้าออก ส่วนการนำวัสดุออกมาเพื่อตรวจสอบคงต้องเป็นหน้าที่ของภาครัฐ ขอให้ลงทะเบียนชัดเจนว่า เอาอะไรออกไปเพราะเป็นทรัพย์สินของ สตง. ส่วนซากปรักหักพังประมาณ 20,000 – 50,000 ลูกบาศก์เมตร จัดเตรียมสถานที่รองรับไว้แล้ว เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

อาคาร 11,517 แห่งไม่มีปัญหา

เวลา 19.00 น. ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ กทม. นางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. แถลงว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองตลอดจนวิศวกรของ กทม.ยังดำเนินการตรวจอาคารที่ได้รับแจ้งจากประชาชนอยู่ ขอให้มั่นใจ รับแจ้งเหตุอาคารมีรอยร้าว 14,430 แห่ง ในจำนวนนี้ กทม. ตรวจสอบจนเหลือเพียง 2,426 แห่งเท่ากับ 81 เปอร์เซ็นต์ เป็นอาคารสีเขียว 11,517 แห่ง แจ้งระงับการใช้อาคารความเสี่ยงสูงเพียง 2 อาคาร จัดหาที่พักให้ทั้งหมด ต่อจากนี้จะเป็นเรื่องของเจ้าของอาคาร ผู้ครอบครองอาคารดำเนินการประสานผู้ตรวจสอบอาคารดำเนินการ กทม.แจ้งเจ้าของอาคารให้ตรวจสอบกว่า 5,000 โครงการแล้ว เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

ศูนย์พักพิงของ กทม.ยังว่างเพียบ

“ส่วนการดูแลช่วยเหลือประชาชนและการเยียวยา ขณะนี้ กทม.เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวได้แก่ ศูนย์พักพิง กทม. 3 แห่งคือ ศูนย์บริการผู้สูงอายุดินแดงรองรับได้ประมาณ 70 คน มีเข้าพักอยู่ 21 คนยังว่างอยู่ 49 ที่ หรือศูนย์พักพิง โรงเรียนวัดเสมียนนารีเขตจตุจักร รองรับได้ 150 คน ยังว่างอีก 150 ที่ และศูนย์พักพิงคอยญาติผู้ประสบภัยเขตจตุจักร เข้าพักอยู่ขณะนี้ 39 คน อยากให้ภาคประชาชนมั่นใจว่ากรุงเทพมหานครยังคงตรวจสอบทุกพื้นที่อยู่อย่างเคร่งครัด เรายังไม่ได้หยุดรับความกังวลและแจ้งเหตุมา” นางทวิดากล่าว เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

ดูแลญาติแรงงานเต็มที่

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า อุปสรรคที่พบคือ ญาติผู้สูญหายต้องดูแล เป็นบุคคลพิเศษเพราะเขาสูญเสีย จึงจัดสถานที่ให้พักนำล่ามภาษาเมียนมามาช่วย รวมถึง พี่น้องชาวลาวต้องดูแลเต็มที่ มีอาหารเตียงนอน มีภาคเอกชนเข้ามาดูแลด้วย ตอนนี้สั่งการให้ทำบัตรแจกเพื่อตรวจสอบคนเข้าออกพื้นที่อย่างรัดกุม สำหรับอาคาร 2 แห่งที่อยู่เกณฑ์สีแดง ยังไม่สามารถให้เข้าไปพักอาศัย เท่าที่ได้รับรายงานเสียหายจากตัวเสาและกำแพง เจ้าของอาคารต้องเสนอวิธีซ่อมเข้ามาให้สำนักการโยธาฯไปตรวจสอบ ขณะนี้มีอาคารที่ออกคำสั่งให้เข้าไปตรวจสอบประมาณ 12,000 อาคาร หน้าที่ในการประเมินความปลอดภัยต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของอาคารก่อน ต้องแบ่งเบาภาระกัน เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

มั่นใจอาคารใน กทม.แข็งแรง

“เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องขอบคุณวิศวกรอาสามากกว่า 158 คน ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านี้จะไม่เพียงพอ ขอให้ความมั่นใจว่าอาคารในกรุงเทพมหานคร กฎหมาย กำหนดให้ออกแบบให้มีความแข็งแรงต่อแผ่นดินไหว อาคารเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์กำลังก่อสร้าง ยกเว้นที่ถล่มลงมามีมาตรฐาน เราต้องมั่นใจในมาตรฐานและสร้างความมั่นใจให้ทั่วโลกรู้ สำหรับการกอบกู้เราไม่มีเงื่อนเวลาขอให้ทำให้เต็มที่ ทีมงานทุกคนมีขวัญกำลังใจจะเดินหน้าต่อไป” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

ดูแลญาติแรงงานเต็มที่

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า อุปสรรคที่พบคือ ญาติผู้สูญหายต้องดูแล เป็นบุคคลพิเศษเพราะเขาสูญเสีย จึงจัดสถานที่ให้พักนำล่ามภาษาเมียนมามาช่วย รวมถึง พี่น้องชาวลาวต้องดูแลเต็มที่ มีอาหารเตียงนอน มีภาคเอกชนเข้ามาดูแลด้วย ตอนนี้สั่งการให้ทำบัตรแจกเพื่อตรวจสอบคนเข้าออกพื้นที่อย่างรัดกุม สำหรับอาคาร 2 แห่งที่อยู่เกณฑ์สีแดง ยังไม่สามารถให้เข้าไปพักอาศัย เท่าที่ได้รับรายงานเสียหายจากตัวเสาและกำแพง เจ้าของอาคารต้องเสนอวิธีซ่อมเข้ามาให้สำนักการโยธาฯไปตรวจสอบ ขณะนี้มีอาคารที่ออกคำสั่งให้เข้าไปตรวจสอบประมาณ 12,000 อาคาร หน้าที่ในการประเมินความปลอดภัยต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของอาคารก่อน ต้องแบ่งเบาภาระกัน เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

มั่นใจอาคารใน กทม.แข็งแรง

“เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องขอบคุณวิศวกรอาสามากกว่า 158 คน ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านี้จะไม่เพียงพอ ขอให้ความมั่นใจว่าอาคารในกรุงเทพมหานคร กฎหมาย กำหนดให้ออกแบบให้มีความแข็งแรงต่อแผ่นดินไหว อาคารเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์กำลังก่อสร้าง ยกเว้นที่ถล่มลงมามีมาตรฐาน เราต้องมั่นใจในมาตรฐานและสร้างความมั่นใจให้ทั่วโลกรู้ สำหรับการกอบกู้เราไม่มีเงื่อนเวลาขอให้ทำให้เต็มที่ ทีมงานทุกคนมีขวัญกำลังใจจะเดินหน้าต่อไป” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

นายกฯชี้ 2-3 วันได้คำตอบตึกถล่ม

เวลา 11.31 น. ที่ศูนย์ Thailand Investment and Expat Services Center (TIESC) ชั้น 7 อาคาร One Bangkok น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจตึก สตง.ถล่มว่า ตนและรัฐมนตรีทุกคนพร้อมตรวจสอบทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์การออกแบบ การตรวจแบบ โรงงานวัสดุก่อสร้าง และวัสดุ รวมถึง รมว.มหาดไทย และ รมว.อุตสาหกรรม ไปดูรายละเอียดวัสดุในไซต์งานก่อสร้างเก็บตัวอย่างออกมาแล้ว ดำเนินการอย่างเต็มที่คิดว่าน่าจะได้คำตอบบ้างใน 2-3 วัน ถามว่าจะแบนบริษัทเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า สอบถาม รมว.อุตสาหกรรมอยู่ว่า เป็นอย่างไร เพราะมีบางบริษัทยังถูกปิดชั่วคราว ต้องดูว่าใช่หรือไม่ ขอให้มีข้อมูลชัดกว่านี้ก่อนจะดำเนินการอย่างเต็มที่แน่นอนตามกฎหมาย ไม่มีละเว้น เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

“นายกฯอิ๊งค์” ดูที่เกิดเหตุ

ต่อมาเวลา 12.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมายังจุดเกิดเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม เพื่อติดตามภารกิจการช่วยเหลือผู้ติดค้างใต้ซากอาคาร พูดคุยกับผู้ปฏิบัติงานทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและอาสากู้ภัย ขณะกำลังเดินเข้าประตูมีตัวแทนกลุ่มพันธมิตรแรงงานต่างประเทศเข้าพูดคุยและก้มกราบเท้า น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า จะให้ความช่วยเหลือแรงงานทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นนายกฯเข้าไปสอบถามสถานการณ์ด้านในประมาณ 20 นาทีจึงเดินทางกลับ เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

สตง.นำแปลนตึกมาให้แล้ว

ขณะเดียวกัน มีตัวแทนเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน นำเอกสารจำนวนหนึ่งเข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม.เผยว่า เอกสารที่เจ้าหน้าที่ สตง.นำมาวันนี้คือแบบแปลนอาคาร สตง.ที่กำลังก่อสร้าง จะระบุตำแหน่งและจุดสำคัญต่างๆในอาคาร เช่น บันไดหนีไฟและลิฟต์ ข้อมูลชุดนี้จะนำมาใช้ในการหารือและวิเคราะห์ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย สำหรับใช้เป็นแนวทางค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายให้รวดเร็ว จะพิจารณาว่าพื้นที่ บริเวณชั้นใดหรือจุดใดของอาคารใช้งานอย่างไรเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

นายกฯกลับเร็วเปิดทางหาคนรอด

“ส่วนภารกิจการค้นหาผู้ติดค้างภายใต้ซากอาคาร ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งปฏิบัติการช่วยเหลือผู้สูญหายอย่างเต็มที่ สาเหตุที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากพื้นที่หลังเข้ามาติดตามความคืบหน้าภารกิจเพียง 20 นาที เนื่องจากคณะทำงานตรวจจับสัญญาณชีพของผู้สูญหายได้ 1 คน ต้องอาศัยความเงียบตรวจสอบสัญญาณชีพที่ยังอ่อน ทำให้ต้องเดินทางกลับเพื่อไม่ให้กระทบกับการปฏิบัติงานที่ต้องการความเงียบ ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศและทีมกู้ภัยกำลังปรึกษาหาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสมที่สุด” รศ.ทวิดากล่าว เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

ยันทีมกู้ภัยไม่ได้ทำงานช้า

รศ.ทวิดายืนยันด้วยว่า การช่วยเหลือไม่ได้ล่าช้า เนื่องจากเพิ่งตรวจพบสัญญาณชีพผู้สูญหาย ส่วนกรอบเวลา 72 ชม.ขอให้เข้าใจว่าเป็นหลักทางการแพทย์สากลที่บ่งชี้ถึงช่วงเวลาที่มีโอกาสช่วยเหลือผู้สูญหายและมีอัตราการรอดชีวิตสูงสุด แม้จะเลยกรอบเวลาแล้วทีมค้นหายังคงไม่หยุดปฏิบัติงาน แต่โอกาสที่ผู้สูญหายจะอ่อนแอลงมากขึ้นเรื่อยๆ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา หากมีเหตุเร่งด่วนจะแถลงข่าวอีกครั้ง เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

พบร่างผู้หญิงเพิ่มเป็นคนที่ 12

เวลา 14.00 น. หน่วยกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 คนบริเวณโซนบี นับเป็นศพที่ 12 เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ ด้านนายสมบูรณ์ พาพันธ์ อายุ 40 ปี กล่าวว่า ตนมาเฝ้าการปฏิบัติงานของกู้ชีพกู้ภัยตั้งแต่วันเกิดเหตุ เนื่องจากว่าน้องสาว นางวิภาคำ พรมภักดี อายุ 40 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ พนักงานกดลิฟต์บริษัทอิตาเลียนไทยฯทำงานอยู่ชั้น 29 หายตัวไป ตนยังโทรศัพท์คุยกับน้องสาวอยู่เลย แต่หลังเกิดเหตุโทร.ไปไม่มีคนรับสาย ช่วงเย็นวานเจ้าหน้าที่พบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์น้องสาวในโซนซีใกล้กับช่องลิฟต์ ตนยังคงหวังพึ่งปาฏิหาริย์ เพราะได้คุยกับพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์แล้ว บอกว่าพบสัญญาณชีพใกล้ช่องลิฟต์ เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน

เจอร่างหญิงในซากเป็นรายที่ 13

เวลา 17.00 น. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม เพียงแต่ตอนแรกที่ได้ให้ข้อมูลว่าเจอสัญญาณชีพนำออกมาแล้ว แต่คือร่างของผู้เสียชีวิตรายที่ 12 ส่วนการทำงานร่วมกับทีมกู้ภัยนานาชาติที่เข้ามาช่วยค่อนข้างเยอะ ทั้งสหรัฐอเมริกา อิสราเอล จีน ไต้หวัน และจากฝรั่งเศส มีการแบ่งโซนตามความชำนาญ เพราะบางทีมชำนาญสแกนหาระบุตำแหน่ง บางทีมมีความสามารถเคลียร์พื้นที่ มีรายงานเมื่อเวลา 17.50 น. ด้วยว่า หน่วยกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอีก 1 ศพ บริเวณโซนดีนำออกมาได้แล้ว นับเป็นศพที่ 13 ส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป ทำให้มียอดสูญหายอีก 73 ราย

หลายหน่วยงานตรวจคุณภาพเหล็ก

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เวลา 14.00 น. น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผอ.สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย นายกิจพัฒน์ ภู่วรวรรณ กรรมการวิศวกรรมโยธาและประธานคณะอนุกรรมการโครงสร้างเหล็ก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นายเติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) นายเอกรัตน์ ไวยนิตย์ นักวิจัยอาวุโส ผอ.กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ และนายณัฐพล สุทธิธรรม อนุกรรมการสาขาโครงสร้างเหล็กวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย นำตัวอย่างเหล็กเส้นที่เก็บจากตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ดำเนินการตรวจสอบว่า เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือไม่

ตรวจเหล็ก 7 ประเภทจาก 3 บริษัท

น.ส.ฐิติภัสร์เผยว่า เหล็กเส้นที่เก็บมาจากที่เกิดเหตุมาตรวจสอบคุณภาพมีจำนวน 28 เส้น 7 ประเภท ประกอบด้วย เหล็กข้ออ้อยขนาด 12 มิลลิเมตร (มม. 3 เส้น เหล็กข้ออ้อยขนาด 16 มม. 3 เส้น เหล็กข้ออ้อยขนาด 20 มม. 6 เส้น เหล็กข้ออ้อยขนาด 25 มม. 2 เส้น เหล็กข้ออ้อยขนาด 32 มม. 7 เส้น เหล็กเส้นกลมขนาด 9 มม. 2 เส้น ลวดสลิงขนาด 15.2 มม. 5 เส้น จาก 3 บริษัทคือ SKY (บริษัทซินเคอหยวนเป็นผู้ผลิตจากจีน) TATA (บริษัททาทา สตีล ผู้ผลิตจากอินเดีย) และ TYS (เครือบริษัทไทยคูณ ผู้ผลิตจากจีนร่วมทุนกับไทย)

ถ้าเหล็กไม่ได้มาตรฐานเอาผิดแน่

“เวลานี้เรายังไม่สามารถปรักปรำทั้ง 3 บริษัทได้จนกว่าผลการตรวจออกมาอย่างเป็นทางการ และให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ยืนยันอีกครั้งว่าผลของเหล็กเป็นบวกหรือลบ ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพเหล็กแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำเหล็กทุกท่อนที่เก็บมาจากจุดเกิดเหตุมาตัดเป็นท่อนขนาด 1 ซม. แล้วนำไปตีแบนก่อนนำไปวิเคราะห์หาค่าองค์ประกอบทางเคมีในเหล็ก ส่วนที่สองจะนำเหล็กเส้นมาวัดขนาดความยาว และชั่งน้ำหนักก่อนนำมาคำนวณค่ามวลต่อเมตรว่าเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.หรือไม่ ผลการตรวจสอบเหล็กเส้นคาดว่าใช้เวลาตรวจให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มี.ค. หลังจากนั้นจะแจ้งให้สาธารณชนทราบต่อไป หากตรวจพบว่าเหล็กไม่ได้มาตรฐานตาม มอก.จะตรวจสอบไปถึงผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าและดำเนินการให้ถึงที่สุด แต่ถ้าผลการตรวจสอบออกมาพบว่าถูกต้องตามมาตรฐาน มอก.ต้องแจ้งให้ทุกคนทราบ เพื่อความเป็นธรรมของผู้ประกอบการ” น.ส.ฐิติภัสร์กล่าว

“สุริยะ” เลี่ยงตอบสั่งแบล็กลิสต์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ตอบข้อถามกรณีบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือไอทีดี ซึ่งได้งานตึกสำนักงาน สตง.ที่ถล่มต้องถูกแบล็กลิสต์หรือไม่ เพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันซ้ำซาก นายสุริยะกล่าวว่า เรื่องแบล็กลิสต์กระทรวงคมนาคมก็ห่วงใย ส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมมีการจัดลำดับชั้นผู้รับเหมา ที่ผ่านมาเมื่อถูกปรับชั้นขึ้นไปแล้วไม่เคยถูกปรับลงผลงานไม่ดียังอยู่ในชั้นพิเศษ ควรจะมีเรื่องสมุดพก สัญญาในปัจจุบันกรณีผู้รับเหมาทำผิดสัญญา เช่น งานล่าช้าจะถูกปรับเท่าไหร่ แต่ไม่มีเรื่องของความปลอดภัยไว้เลย ฉะนั้นสัญญาจากนี้ต่อไปได้คุยกับกรมบัญชีกลางแล้ว ถ้างานในสัญญามีการบาดเจ็บหรือทำให้มีผู้เสียชีวิตจะถูกหักกี่คะแนน ถ้าถูกหักจนถึงเกณฑ์ที่ว่าจะถูกแบล็กลิสต์ จะเริ่มใช้กับสัญญาใหม่ๆ

ประชุมบริษัทรับเหมาเรื่องเยียวยา

ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.00 น. ประชุมวอร์รูมคณะทำงานศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือแรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว หารือกับผู้แทนบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศ ไทย) จำกัด เป็นบริษัทร่วมดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน สตง.แห่งใหม่ เพื่อขอทราบจำนวนคนงานที่เป็นผู้ประกันตน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยา กระทรวงแรงงานฐานะหน่วยงานที่ดูแลนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนจะร่วมดูแลสิทธิประโยชน์ทดแทน ขณะนี้ต้องรอเอกสารยืนยันสิทธิของแต่ละคนเพราะยังติดใต้ซากตึกอีกมาก คนงานวันเกิดเหตุเข้าพื้นที่ประมาณ 100 คน

แรงงานตายรับคนละ 1.7 ล้านบาท

นายบุญสงค์กล่าวอีกว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะประชุมบอร์ดประกันสังคมเพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาลูกจ้างว่างงาน บาดเจ็บ และเสียชีวิตจาก แผ่นดินไหวตึกถล่ม จากข้อมูลเบื้องต้นกระทรวงแรงงานจะดูแลจ่ายชดเชยเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ประกันตนรายละประมาณ 1,730,000 บาท กรณีบาดเจ็บจะรักษาจนสิ้นสุดการรักษา ส่วนที่ปลอดภัยแล้วแต่ต้องกลับไปอยู่บ้านไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากปิดบริษัท จะเยียวยาค่าวางงานให้อัตรา 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน หรือประมาณ 7,500 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 6 เดือน

เจอเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 13 ท่อน

ที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เวลา 19.00 น. น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม เผยผลการนำตัวอย่างเหล็กเส้น 28 ท่อน จากตึก สตง.ถล่มมาตรวจสอบคุณภาพว่าเหล็กที่นำมาตรวจสอบ 28 ท่อน 7 ไซส์ได้มาตรฐาน 15 ท่อน 5 ไซส์ ไม่ได้มาตรฐาน 13 ท่อน 2 ไซส์ คือ ไซส์ 20 มม.และ 32 มม. ทั้ง 2 ไซส์มาจากบริษัทเดียวกัน เป็นบริษัทเหล็กที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สั่งปิดไปช่วงเดือน ธ.ค.67 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน หลังจากนี้จะกลับไปนำตัวอย่างเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อให้มีหลักฐานเพียงพอ เหล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบครั้งนี้เราจะไปดูว่า เป็นเหล็กที่ผลิตระหว่างที่เราสั่งปิดหรือไม่ อย่างไร เพราะเราสั่งปิดไปประมาณ 4 เดือนแล้ว แต่ดูจากเหล็กน่าจะประมาณ 5 เดือนต้องตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง หากพบว่าลักลอบนำเหล็กไม่ได้มาตรฐานมาใช้จะถูกดำเนินคดี ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว แต่แม้ว่าเหล็กที่เรา ตรวจสอบจะพบว่า ไม่ได้มาตรฐานบางส่วน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นสาเหตุหลักทำให้อาคาร สตง.ถล่ม

รมว.แรงงานตรวจดูตึก สตง.ถล่ม

เวลา 16.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่ตึก สตง.ถล่ม เผยว่า มาดูความเดือดร้อนของพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบ หากผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นผู้ประกันตนตาม ม.33 จะได้รับการดูแลตามสิทธิสูงสุดเต็มที่ เงินเยียวยาประมาณเกือบ 2 ล้านบาท ส่วนคนไม่ได้อยู่ในสิทธิ บริษัทรับเหมาต้องรับผิดชอบ แต่กระทรวงจะช่วยก่อน รวมถึงมีการประสานล่ามมายังจุดอำนวยการ ศูนย์ประสานงานตั้งอยู่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเจเจมอลล์ เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. นอกจากที่จุดเกิดเหตุยังติดต่อที่สำนักงานเขตทั้ง 12 เขตทั่ว กทม. ส่วนต่างจังหวัดติดต่อได้ที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ประจำจังหวัดได้ทั้งหมด ในส่วนผู้รับเหมาตอนนี้ยังอยู่ระหว่างประสานข้อมูล โดยเฉพาะผู้รับเหมาที่รับช่วงต่อ ยังไม่แน่ใจว่ามีกี่รายต้องขอรายชื่อมาทั้งหมด เพราะการพิสูจน์อัตลักษณ์ตอนนี้อาจทำได้ยาก รายชื่อแรงงานทั้งหมดจึงสำคัญ ส่วนการจ้างงานหากพบผิดกฎหมาย เช่น การใช้แรงงานเด็กต่ำกว่า 18 ปีต้องดำเนินคดี แต่สำหรับบุคคลที่อายุเกิน 60 ปี หากสมัครใจทำงานไม่มีความผิด

อิตาเลียนไทยเยียวยาเจ็บ-ตาย

บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 มี.ค.ว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระหว่างก่อสร้างถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ บริษัทเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัทดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกลต่างๆ ร่วมสนับสนุนหน่วยงานราชการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนดำเนินการแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยชดเชยเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป

ตรวจบริษัทจีนพบปิดเงียบ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เผยว่า บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นคู่สัญญาก่อสร้างอาคาร สตง.ที่ถล่ม มีข้อสงสัยว่า เป็นธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) หรือไม่ ตนสั่งการให้คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศฝ่าฝืนกฎหมาย มี ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็น ประธานคณะทำงานเร่งลงพื้นที่และตรวจสอบเรื่องธุรกิจนอมินีแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ลงพื้นที่สำนักงานใหญ่บริษัท แขวงบางมด เขตทุ่งครุ ปรากฏว่าสำนักงานปิดเงียบ ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ที่ให้ไว้ตอนจดทะเบียนนิติบุคคลได้ คณะทำงานนัดประชุมหารือวันที่ 1 เม.ย. เพื่อเร่งขยายผลโดยเร็ว

ดูสถานะผู้ถือหุ้นนอมินีหรือไม่

“นอกจากนี้ มอบให้คณะทำงานเร่งดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เคร่งครัด และรัดกุม หากพบเป็นธุรกิจนอมินี หรือมีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าวต้องดำเนินการตามกฎหมาย นำผู้กระทำผิด มาลงโทษขั้นสูงสุดคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนข้อมูลนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัทไชน่า เรลเวย์ฯจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 ส.ค.61 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียนคือ ประกอบกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย และวัตถุประสงค์ที่มาจากงบการเงินปีล่าสุด (ปี 67) คือ บริการด้านทรัพยากรมนุษย์และรับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพาณิชย์ ที่พักอาศัย สถานที่ทำการ ทางรถไฟรถสาธารณะ มีกรรมการ 2 คนคือ 1.นายชวนหลิง จาง (ถือหุ้น 49%) และ 2.นายโสภณ มีชัย (ถือหุ้น 51%) และขยายผลการตรวจสอบนิติบุคคลอื่นซึ่งมีที่ตั้งเดียวกับบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ รวมทั้งนิติบุคคลอื่นที่มีกรรมการและผู้ถือหุ้นชื่อเดียวกับบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯอีก 13 คนด้วย” รมว.พาณิชย์กล่าว

ผู้ว่าการ สตง.เครียดอาคารถล่ม

เวลา 16.25 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานเเก้ว รอง ผบช.ก. เผยหลังตรวจสอบอาคาร สตง.ถล่มว่า เบื้องต้นพูดคุยกับผู้ว่าการ สตง.มีอาการเครียดและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่อยากให้ข้อมูลใดๆตอนนี้ ประกอบกับเพิ่งมารับตำแหน่ง ถามว่าจะดำเนินคดีกับใคร พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ตอนนี้ขอมุ่งไปที่การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุติดใต้อาคารให้สำเร็จลุล่วงก่อน จากนั้นจะมาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและสาเหตุอาคารถล่ม หากพบความผิดก็จะดำเนินคดี ถามย้ำว่าจากประสบการณ์แล้วพบความผิดปกติของเหตุการณ์ครั้งนี้บ้างหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ยอมรับว่ามีบางอย่างค่อนข้างผิดปกติ แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียด ขอช่วยเหลือผู้ประสบเหตุก่อน

รวบลุงแสบอ้างชื่อรับบริจาค

ที่ สน.บางซื่อ เวลา 15.30 น. น.ส.กรวิภา สอนบุปผา อายุ 23 ปี เซลส์ขายเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่งย่านประดิษฐ์มนูธรรม ถูกนายสมนิจ ดวงเนตร อายุ 50 ปี เดินทางไปบริเวณอาคาร สตง.ถล่ม แอบอ้างว่าภรรยากำลังท้องติดอยู่ในซากตึก แถมประกาศขอบริจาคเงิน เข้าพบ พ.ต.ท.สุภัทร เหมจินดา สว. (สอบสวน) สน.บางซื่อ แจ้งความเอาผิดกับนายสมนิจ ข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและความผิดอื่นที่ตรวจสอบพบ ยืนยันว่าไม่รู้เห็นและรู้จักนายสมนิจมาก่อน พอเห็นข่าวครอบครัวตกใจมาก ไม่รู้ว่านายสมนิจต้องการอะไร แต่มันทำให้ชื่อเสียงของตนและครอบครัวเสียหาย ล่าสุดตามตัวได้แล้ว

ในหลวง-ราชินีพระราชทานของช่วยพม่า

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง องคมนตรี เชิญสิ่งของบรรเทาทุกข์พระราชทานไปมอบแก่อู ซอ ซอ โซ (U Zaw Zaw Soe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองบัญชาการกองทัพอากาศ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ ประกอบด้วยยาและเวชภัณฑ์ เต็นท์นอน เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องปั่นไฟ ถุงพระราชทานสำหรับเด็ก และถุงพระราชทานสำหรับผู้ใหญ่ แก่ผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โอกาสนี้เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาฯ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

เมียนมาเสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,056 ศพ

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 จุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมา ตามด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.7 เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เจ้าหน้าที่ปรับยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,056 ศพ บาดเจ็บอย่างน้อย 3,900 ราย สูญหายมากกว่า 270 ราย ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศเมียนมายืนยันว่า มีพลเรือนจีนเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 1 ศพ บาดเจ็บ 15 คน รัฐบาลเมียนมาประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ รวมถึงลดธงครึ่งเสาถึงวันที่ 6 เม.ย. สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากสุดส่วนใหญ่อยู่ในตอนกลางของประเทศ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากจีนและรัสเซียยังใช้เวลากว่า 5 ชม.เข้าช่วยเหลือหญิงสาวที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารของโรงแรมเกรท วอลล์ ในเมืองมัณฑะเลย์มานานกว่า 60 ชม.เอาไว้ได้ โดยอาการของเหยื่อยังคงทรงตัว

วัดถล่มช่วยพระแล้ว 70 ยังหาย 150

สำนักข่าวเอพีของสหรัฐฯรายงานว่า เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือพระสงฆ์ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารของวัดแห่งหนึ่งในเมืองมัณฑะเลย์ หลังอาคารถล่มระหว่างการสอบวัดความรู้ทางศาสนา ขณะนั้นมีพระสงฆ์เข้าสอบ 270 รูป สามารถช่วยเหลือได้แล้ว 70 รูปยังไม่ทราบชะตากรรมอีก 150 รูป ขณะที่มีพระสงฆ์มรณภาพจากเหตุครั้งนี้ 50 รูป อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศระบุว่า ต้องให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหว ต้องมีน้ำสะอาดไว้ใช้อุปโภคบริโภคเพื่อป้องกันโรคต่างๆ และอากาศมีอุณหภูมิสูงเพราะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน โดยมีอุณหภูมิราว 40 องศาเซลเซียส ยังส่งผลให้ปฏิบัติการช่วยเหลือเหยื่อที่ยังติดอยู่ใต้ซากอาคารเป็นไปอย่างยากลำบาก ท่ามกลางความหวังในการพบผู้รอดชีวิตในเมียนมาที่ลดลงเรื่อยๆ และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกมาก

ต้องการเงินฟื้นฟู 4 พันล้านบาท

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า ต้องการเงินสนับสนุน 8 ล้านดอลลาร์หรือราว 271 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือชีวิตเหยื่อจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา ป้องกันการเกิดโรคระบาด และฟื้นฟูระบบให้บริการสุขภาพภายใน 30 วัน เช่นเดียวกับสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศเผยว่า จำเป็นต้องได้รับเงินสนับสนุนราว 115 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3,900 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนกว่า 100,000 คน หรือกว่า 20,000 ครัวเรือน เพื่อช่วยชีวิตและฟื้นฟูในด้านต่างๆ ในอีก 24 เดือนข้างหน้า ส่วนรัฐบาลสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือผ่านหน่วยงานด้านมนุษยธรรมของเมียนมามูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 67 ล้านบาท พร้อมส่งทีมเจ้าหน้าที่ด้านสถานการณ์ฉุกเฉินของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ (USAID) ไปสนับสนุนเมียนมา

ขณะเดียวกัน สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) หนึ่งในกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหาร แถลงประณามรัฐบาลเมียนมาที่ยังคงเดินหน้าโจมตีทางอากาศใส่ในบริเวณที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ ไม่เว้นแม้แต่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรง ระบุว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แทนการโจมตีประชาชน

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน