แม่สุดช้ำ ลูกสาววัย 11 ถูกเพื่อนบ้าน ข่มขืน คดีไม่คืบ เผยคำพูดตร.ทำน้อยใจ

แม่สุดช้ำ

แม่สุดช้ำ ลูกสาววัย 11 ปี ถูกเพื่อนบ้านวัย 52 ปี ข่มขืน แจ้งความคดีไม่คืบ เพื่อนบูลลี่จนไม่กล้าไปโรงเรียน เผยคำพูดตำรวจทำน้อยใจ พ้อเขาคิดว่าเราเป็นคนจน

วันที่ 9 มิ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่า ขอให้มาช่วยเหลือเดินเรื่องให้ เพราะไม่มีใครมาช่วยได้ ซ้ำยังเหมือนจะโดนขู่ ไม่ให้เอาผิดกับคนบ้านเดียวกันที่มาข่มขืนลูกสาววัย 11 ปี

น.ส.นุ้ย (นามสมมติ) อายุ 47 ปี คนร้องทุกข์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวตนอายุ 11 ปี มาบอกกับตนว่าเจ็บที่อวัยวะเพศ เมื่อสอบถามลูกสาวว่า ถูกใครกระทำลูกสาวบอกว่าไม่โดนอะไร ตนจึงไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าน่าเป็นเพราะอย่างอื่น

แม่สุดช้ำ

น.ส.นุ้ย กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ตอนนั้นหมู่บ้านมีงานบุญ ได้มีภรรยาของนายไร ซึ่งมีบ้านติดกันกับตน อดีตสมาชิก อบต.ในพื้นที่ โวยวายอยู่กองฟางหลังบ้านนายไร

น.ส.นุ้ย กล่าวอีกว่า โดยดุด่าลูกสาวของตนว่า “เธอทำแบบนี้ได้อย่างไร ไม่สงสารป้าเหรอ” เนื่องจากภรรยานายไร เห็นสามีกำลังจะพยายามข่มขืนลูกสาวของตนอยู่ที่โรงเก็บฟางหลังบ้านนายไร

น.ส.นุ้ย กล่าวว่า สุดท้ายเรื่องทั้งหมดถูกเปิดขึ้น ลูกสาวจึงกล้าเล่าว่าถูกนายไรข่มขืนเมื่อวันที่ 11 และ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา 2 ครั้งแต่ไม่กล้าบอกแม่ เพราะนายไรขู่จะฆ่าหากไปบอกให้ใครรู้

แม่สุดช้ำ

น.ส.นุ้ย กล่าวด้วยว่า จากนั้นตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองกี่ เพื่อให้เอาผิดนายไร ตำรวจให้พาเด็กไปตรวจร่างกาย แพทย์ลงความเห็นเคยมีร่องรอยของการถูกกระทำ แต่ไม่พบคราบอสุจิ เพราะวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา นายไรยังข่มขืนไม่สำเร็จมีภรรยามาเห็นก่อน

น.ส.นุ้ย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเป็นต้นมามีญาตินายไรมาเจรจาหลายครั้ง โดยบอกให้ยอมความ จะจ่ายเงินสดให้ 10,000 บาท เพราะเขาคิดว่าเราเป็นคนจนแต่ตนไม่ยอม ไปเร่งคดีพนักงานสอบสวนก็ไม่เดินเรื่องให้ อ้างว่าออกเวรแล้ว ให้ไกล่เกลี่ยกัน ต่อมาญาตินายไรมายื่นข้อเสนอให้อีกจะขอจ่าย 50,000 บาท บอกว่า “จะได้เงินสด ๆ นะ” แต่ตนก็ไม่ยอม

น.ส.นุ้ย กล่าวอีกว่า สุดท้ายตำรวจนัดให้ไปให้ปากคำเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 น. ตนจึงขับรถจักรยานยนต์พาลูกไปที่ สภ.หนองกี่ ไกลประมาณ 30 กิโลเมตร ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนบอกว่า “ออกเวรแล้ว” ค่อยมาใหม่

น.ส.นุ้ย เล่าด้วยว่ารู้สึกน้อยใจมากที่ตำรวจใช้คำว่า “ออกเวรแล้ว” ทั้งที่มาตามนัดเหมือนจงใจกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมาเคยเหมารถผู้ใหญ่บ้านมาพบตำรวจครั้งละ 600 บาท แต่ครั้งนี้ไม่มีเงินจ้างจึงขับรถจักรยานยนต์มากับลูกตามลำพัง

แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า จึงอยากจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาช่วยเหลือครอบครัวยากจนอย่างตน ตอนนี้แม่สุดช้ำสงสารลูก เพราะหลังจากวันที่ 19 เม.ย. 67 ที่ผ่านมาเป็นต้นมา ชาวบ้านในหมู่บ้านรวมถึงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนลูกสาวรู้เรื่องทั้งหมด

“ถูกเพื่อนบูลลี่ประจำว่า “โดนไหม” จนไม่อยากจะไปโรงเรียน ยิ่งกว่านั้นลูกสาวจะผวาทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ของนายไรที่ข่มขืนเพราะกลัว หลายครั้งต้องพาลูกสาวไปนอนบ้านญาติต่างหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความรู้สึกลูกสาว” น.ส.นุ้ย กล่าว

ติดตามข่าวสาร ประเด็นร้อนต่าง ๆ ได้เลยที่เว็บของเรา : ข่าวเด็ดประจำวัน