นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรร้องเรียนให้ ตรวจสอบทุจริตจตุจักร การไม่ลงรายรับเงินค่าเช่าแผงเข้าระบบของตลาดนัดจตุจักร
ปัญหาตลาดนัดจตุจักรเป็นเรื่องที่มีความเรื้อรังมานาน ปัจจุบันมีผู้ค้าอยู่มากกว่าหมื่นราย มีแนวคิดการบริหารตลาดที่แตกต่างกันในแต่ละช่วง โดยเมื่อมีการมอบภารกิจจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาให้ กทม.ดูแลแล้ว มีข้อจำกัดห้ามเก็บค่าเช่าประมาณ 1,400-1,800 บาท ต่อแผง เพื่อเป็นการช่วยเหลือแก่ผู้ค้า และในส่วนถนนเมนหลัก ผู้บริหารมีแนวคิดว่าไม่อยากให้มีรถเข้ามาจอด และมีการปรับทำให้เป็นถนนคนเดิน จึงมีการสอบถามคนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยในแนวคิดดังกล่าว เพื่อให้เดินสัญจรได้ง่าย แต่เมื่อไม่มีรถเข้าไปจอด ก็มีส่วนทำให้ผู้ค้าขายที่อยู่ด้านในลึกๆขายของไม่ได้
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กทม. ได้พยายามหาทาง เจรจาพูดคุย แต่ก็มีแนวคิดที่ไม่ตรงกัน และพยายามที่จะดูแลกลุ่มผู้ค้าเก่าด้วยการจัดสถานที่ใหม่ให้ แต่ผู้ค้ากลุ่มนั้นก็ไม่ยอมโยกย้ายที่ขาย ขณะที่ผู้ค้ากลุ่มเต็นท์สีเขียว ซึ่งมีสภาพรกรุงรัง ทางตลาดได้ยื่นข้อเสนอจัดโซนใหม่ ให้ย้ายไปอยู่โซนที่ว่างแทน ผู้ค้าก็ไม่เห็นด้วยในการบริหารจัดการ สำหรับการตรวจสอบกรณีทุจริต ก็ได้มีการดำเนินการมาโดยตลอด โดยเฉพาะการลงบัญชีรายรับหรือ ค่าปรับต่างๆ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทำเพื่อเอื้อประโยชน์ ให้แก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. ไปตรวจสอบกับทางสำนักงานตลาด กทม.ในเชิงลึก และรายงานผลมาให้ตนได้รับทราบ หากพบทุจริตจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎระเบียบ และกฎหมาย
“ผมมั่นใจว่าเงินที่รับมาทั้งหมด ต้องมีใบเสร็จคืนกลับไป อย่างไรก็ตาม เคยมีการแจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วว่า กรณีคนที่ไม่พอใจการบริหารจัดการ หากคิดว่า กทม.ทำได้ไม่ดี ก็อาจจะคืนแผงค้ากลับมา แล้วไปหาที่อื่นที่ดีกว่าก็ได้ แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครคืนแผงค้ากลับมา ดังนั้นจึงต้องกลับมาพิจารณาว่าปัญหาเรื่องตลาดนัดจตุจักร ต้องแยกแยะให้ดีว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงคืออะไรบ้าง อย่าเอาเรื่องทุกเรื่องมาปนกัน เรายืนยันว่าจะพยายามแก้ปัญหาต่างๆให้สะสางไปได้ แต่อาจจะไม่สามารถเอาใจใครทุกคนได้” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว.
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน