ตำรวจ สน.ชนะสงคราม อรินทราช 26 ฝากขังจ่าเอ็ม คุมตัว “จ่าเอ็ม” มือปืนรับจ้างสังหาร “ลิม คิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ส่งศาลอาญาฝากขังผลัดแรก
จากกรณีทางการกัมพูชาส่งตัวนายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม แพน้อย อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือ มือปืนรับจ้างสังหารนายลิม คิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา มาดำเนินคดีในไทย ชุดสืบสวน บช.น. ไปรับตัวที่ด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ควบคุมตัวขึ้น ฮ. บินด่วนมาลงที่ท่าแร้ง กทม. นำตัวไปสอบปากคำขยายผลจับกุมผู้ร่วมทีมสั่งตาย ที่ สน.ชนะสงคราม โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นั่งหัวโต๊ะร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนสอบปากคำ
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มกราคม 2568 ที่ สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.สนอง แสงมณี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจอรินทราช ได้คุมตัวนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือเอ็ม อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือ ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม คิมยา อดีต ส.ส. ฝ่ายค้านกัมพูชาเสียชีวิตไปส่งที่ศาลอาญาฝากขังเป็นผลัดแรก ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนโดยใช้เหตุ ฝากขังจ่าเอ็ม
โดยบรรยากาศมีสื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าว เจ้าหน้าที่ได้กั้นแผงเหล็กวางกำลังตำรวจคุ้มกันผู้ต้องหาเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในระหว่างขั้นตอนการส่งตัวผู้ต้องหา
ด้านนายเอกลักษณ์ มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยอมตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า จ่าเอ็ม สวมเสื้อยืดสีฟ้า สวมเสื้อเกราะกันกระสุนสีดำ หมวกกันกระสุนสีดำ สวมกางเกงขายาวสีดำ มีสีหน้าเรียบเฉยไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน สำหรับขบวนรถที่จะพาไปฝากขังต่อศาลฯ นั้น มีหน่วยอรินทราช 26 คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ตลอดทาง
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แม่พร้อมน้องสาวคนกลางของจ่าเอ็มได้นำข้าวผัดหมู กระเพราหมู อย่างละ 1 กล่อง และน้ำเปล่า 1 ขวดมาเข้าเยี่ยมจ่าเอ็ม แต่ตำรวจสิบเวรหน้าห้องขังได้แจ้งกลับแม่ว่า จ่าเอ็มปฏิเสธที่จะให้เข้าพบ และไม่ขอรับข้าวกล่องจากคุณแม่ ก่อนที่คุณแม่และน้องสาวจะเอาข้าวกล่องพร้อมน้ำให้ตำรวจไปแทน
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้นำตัว พ.จ.อ.เอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม อดีตนาวิกโยธิน สังกัดกองทัพเรือ ผู้ต้องหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน
ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนพยานอีก 20 ปาก (พยานชุดจับกุมและประจักษ์พยาน) รอผลตรวจลายนิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ, ผลตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องหา, ผลตรวจเขม่าอาวุธปืนจากร่างกายและเสื้อผ้าของผู้ต้องหา, ผลตรวจใบอนุญาตให้มีอาวุธปืน, ผลตรวจทางนิติเวชจากศพผู้ตาย
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตฝากขังได้
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน
