สมัครใจไม่ประกันตัว ฝากขังทิดแย้มนอนเรือนจํา สีกาเก็ตวืด-หมดอิสรภาพ

ฝากขังทิดแย้มนอนเรือนจํา

“สมีแย้ม” ควง “สีกาเก็ต” เดินคอตกเข้าเรือนจำทั้งคู่ หลังตำรวจคุมตัวส่งฟ้องฝากขังผัดแรก คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ปั่น สลอตเล่นบาคาราออนไลน์กว่า 300 ล้านบาท ฝากขังทิดแย้มนอนเรือนจํา

ขอไม่ยื่นประกันตัว ส่วนสาวคู่ขายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลไม่อนุญาต ชี้คดีมีอัตราโทษสูงหากปล่อยไปเสี่ยงหลบหนี แถมยังมีคดีอื่นติดตัวอยู่แล้ว แฉเส้นทางการเงิน สมีแย้มสั่งสมุนโอนเงินให้สีกาเก็ตตั้งแต่ปี 63-67 นับร้อยครั้ง แต่ละครั้งยอดหลักแสนถึงหลักล้าน แค่เดือนเดียวโอนให้ 80 ล้านบาท สุดแสบโอนเงินวัดเข้าบัญชีคนใกล้ชิด ไปซื้อรถยนต์หรูมาถวายไว้ใช้ส่วนตัว “มหาเอกพจน์” มือโอนเงินบอกไม่นับถือแย้มแล้ว ฝากขังทิดแย้มนอนเรือนจํา ตอนนี้ตัวใครตัวมัน ก่อนถูกส่งฝากขัง ศาลไม่ให้ปล่อยตัวเช่นกัน

สะท้านแวดวงดงขมิ้น สะเทือนศรัทธาชาวพุทธ หลังตำรวจ บก.ปปป. นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง จับพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือเจ้าคุณแย้ม อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และเจ้าคณะ ภาค 14 ยักยอกเงินวัดไปปั่นสลอตเล่นบาคาราออนไลน์ และเปย์ให้ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ อายุ 28 ปี หรือสีกาเก็ต หญิงสาวคนสนิทที่คอยเติมเงินให้พระเล่นพนัน จำนวนหลายร้อยล้านบาท หลังถูกจับสึก นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตเจ้าคุณ แย้มรับสารภาพ ขณะที่ น.ส.อรัญญาวรรณอ้างรู้จัก นายแย้มตั้งแต่สมัยเรียน ร.ร.วัดไร่ขิง ขอยืมเงินครั้งแรก 40 ล้านบาท ไปลงทุน จากนั้นได้โทร.พูดคุยและวิดีโอคอล หากันเกือบทุกวัน ตำรวจเช็กโทรศัพท์มือถือนายแย้ม พบคลิปสยิวสาวคนสนิทไลฟ์โชว์เรือนร่างขณะอาบน้ำ เป็นหลักฐานมัดตัว พร้อมเร่งเช็กเส้นทางเงินหาความเชื่อมโยงพัวพันถึงใครบ้าง เพื่อเร่งกวาดล้างขจัดมาร ศาสนาแก๊งนี้ให้สิ้นซาก

ที่อาคารรับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 พ.ค. พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.5 บก.ปปป. เบิกตัวอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กลาง ออกหมายจับ ที่ จ.53/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค.68 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ หรือจัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็น ของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต นำตัวขึ้นรถควบคุมเดินทางไปฝากขังศาล ระหว่างเดินไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวสอบถามอยากชี้แจงอะไรหรือไม่ ฝากขังทิดแย้มนอนเรือนจํา นายแย้มไม่ตอบคำถาม ก้มหน้าเดินขึ้นรถทันที

จากนั้นได้เบิกตัว น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ หรือสีกาเก็ต อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดี ทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.54/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค.68 ข้อหาสนับสนุนเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ หรือจัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ไปส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางพิเศษประจิมรัถยา แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เพื่อขอผัดฟ้องฝากขังผัดแรก พร้อมแนบคำร้องขอคัดค้านการประกันตัวเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เดินทางมาถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบกลาง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. ยื่น คำร้องต่อศาล ขอฝากขังพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนาย แย้ม อินทร์กรุงเก่า ผู้ต้องหาที่ 1 และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ผู้ต้องหาที่ 2 ครั้งแรกมีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 17-28 พ.ค. น.ส.อรัญญาวรรณ ผู้ต้องหา ที่ 2 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพยานหลักฐานเป็นอิเล็กทรอนิกส์ หากได้ประกันตัว อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งผู้ต้องหาที่ 2 ถูกฝากขังในคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ ฝ.2739/2568 ของศาลอาญาด้วย ข้อหาดังกล่าวมีอัตราโทษสูงเช่นกัน หากคดีนี้ได้ประกันตัว เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ 2 จะหลบหนี ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด จากนั้น ศาลได้ออกหมายขังนำตัวนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า ผู้ต้องหาที่ 1 ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วน น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ผู้ต้องหาที่ 2 นำตัวไป คุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

ไล่เลี่ยกัน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พนักงานสอบสวน บก.สอท.3 เบิกตัวนายเอกพจน์ ภูฆัง หรืออดีตพระมหา เอกพจน์ ภูฆัง คนสนิทนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีต เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.68 ความผิดข้อหา “พ.ร.บ.การพนัน ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ไปขอฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ กรุงเทพฯ

ระหว่างนายเอกพจน์ถูกคุมตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้จักกับนายแย้ม ช่วงเข้าไปบวชอยู่วัดไร่ขิงปี 61 ไม่รู้ว่าเงินที่โอนเป็นเงินอะไร ตนเป็นเพียงคนสนิท เมื่อเจ้าอาวาสใช้ให้ไปกดเงิน-โอนเงิน ต้องไปทำให้เพราะเป็นพระผู้น้อย ยอมรับโอนเงินให้หลายร้อยครั้ง ไปโอนตามตู้ฝากเงินอัตโนมัติหลายพื้นที่ทั้งใน จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง แต่ละครั้งหลักล้านบาท โอนเข้าบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือสีกาเก็ต ทำให้ฟรีไม่ได้รับค่าจ้าง เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตอนนี้ยังนับถือนายแย้มอยู่หรือไม่ นายเอกพจน์ตอบว่า ตอนนี้ไม่แล้ว ต้องตัวใครตัวมันแล้ว ก่อนจะเดินขึ้นรถควบคุมไปศาลอาญา และศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว คุมตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ว่าผลการสอบปากคำนายแย้ม มีความคืบหน้าไปมาก ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่น (สตง.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด และบัญชีธนาคารส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสในอดีตทั้งหมดอย่างละเอียด เนื่องจากแต่ละวันวัดจะมีรายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเงินทำบุญ เงินบริจาคจากญาติโยม เงินรายได้จากการขายดอกไม้ธูปเทียน สำหรับพระวชิรปัญญาพร หรือพระอ๋อ เลขานุการเจ้าคณะภาค 14 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่มีศักดิ์เป็นหลานของนายแย้ม เมื่อวานนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่สอบปากคำไปแล้วให้การเป็นประโยชน์มากพอสมควร เพราะพระอ๋อจะคอยดูแลบัญชีการเงิน คอยทำเอกสารงบการเงิน และการเบิกจ่ายเงินเรื่องต่างๆ

ขณะที่ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้นำตัวนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อม น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ อายุ 28 ปี โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ สองผู้ต้องหาส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมแนบหนังสือคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพบว่านายแย้มเคยมีพฤติกรรมยุ่งเหยิง หรือทำลายพยานหลักฐาน แต่ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจพิจารณาของศาลว่าจะพิจารณาเห็นควรอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการตรวจสอบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงกับ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมทั้งจากการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง หรือแบบอำพราง ด้วยการให้พระลูกวัดนำเงินสดไปฝากผ่านตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ พบว่านายแย้ม เริ่มโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ มาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปี 2567 ยอดเงินที่โอนแต่ละครั้ง มีตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงล้านบาท รวมประมาณกว่า 300 ล้านบาท เมื่อลงลึกในรายละเอียดยังพบว่าเฉพาะปี 2566 นายแย้ม เคยโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมกันมากถึง 80 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น

แนวทางสืบสวนยังพบว่า นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดไปให้ น.ส.อรัญญาวรรณแล้ว ยังพบว่า นายแย้มเคยเบิกถอนเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัวก่อนโอนไปยังบุคคลใกล้ชิด นำไปซื้อรถหรูแล้วนำมาถวายให้นายแย้ม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพื่อใช้เป็นรถยนต์ส่วนตัว อีกทั้งยังตรวจสอบพบเส้นเงินปริศนาที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบโอนมาให้นายเอกพจน์ ภูฆัง หรืออดีตพระมหาเอกพจน์ จำนวน 200 ล้านบาท และคนใกล้ชิดนายแย้ม เป็นชายภายในวัดอีก 60 ล้านบาทด้วย

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน