มือปืนมอบตัวแล้ว มือยิงดาบตำรวจ – เมียท้อง 6 เดือน เปิดปมสังหารเหี้ยม
เรื่องราวเริ่มจาก
ช่วงบ่าย วันที่ 12 พ.ค.67 ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ รับแจ้งมีคนสูญหาย จึงได้ประสานทางอาสาสมัครกู้ภัยร่วมลงทำการค้นหา บริเวณสระน้ำ พื้นที่ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีไม่พบ
จากนั้น ตำรวจจึงได้ทำการปูพรมบริเวณป่ามันและป่าอ้อยก็ไม่พบอีกเช่นกัน
ต่อมาเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจได้รับแจ้งจากชุดสืบสวน ว่า พบรถของคนหาย บริเวณสระน้ำกลางป่ามัน ในพื้นที่ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี โดยรถคันดังกล่าว อยู่ในสภาพถูกขับมาทิ้งไว้
ลักษณะของรถ ด้านหน้าทิ่มลงไปอยู่สระน้ำ จากการตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของดาบตำรวจสกล บรรจุ บุคคลสูญหายจริง
ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ด.ต.สกล และ น.ส. CHANSONE ชาวลาว ซึ่งเป็นแฟนสาวที่กำลังตั้งท้อง 6 เดือน
ยิ่งตรวจสอบสภาพรถ และ ที่เกิดเหตุ ก็ยิ่งพบพิรุธ
ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงตรวจสอบ พบร่องรอยกระสุนไม่ทราบขนาดยิงเข้าไปบริเวณฝั่งประตูคนขับจำนวน 3 รู และมีรอยกระสุนที่ถูกยิงมาจากข้างใน จำนวน 1 รู ส่วนด้านในบริเวณด้านหน้าฝั่งซ้าย พบร่าง ด.ต.สกล สภาพหน้าทิ่มลงไปบริเวณช่องพักหว่างขาผู้โดยสาร ส่วนแฟนสาวของดาบสกลนั้น ถูกยิงเสียชีวิตภายในแค็ปด้านหลัง มีสภาพหน้าทิ่มไปฝั่งด้านซ้ายของตัวรถลักษณะเดียวกัน
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบร่องรอยรูกระสุนจำนวน 9 นัด บริเวณหน้าอกและตามร่างกายของดาบตำรวจสกล มีรอยทะลุถูกแขนด้านขวาจำนวน 1 บาดแผล ส่วนแขนด้านซ้ายหักผิดรูป ด้านร่างของภรรยาชาวลาวที่กำลังตั้งท้องได้ประมาณ 6 เดือน พบร่องรอยกระสุนจำนวน 7 นัด
ตรวจสอบเพิ่มภายในรถพบแม็กกาซีน จำนวน 2 แม็กมีกระสุนคาอยู่ในแม็กกาซีน วางอยู่บริเวณเบาะหลัง และตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลที่อยู่ด้านหลังเบะคนขับยังพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอกซึ่งเป็นของดาบตำรวจสกล ซึ่งปกติแล้วดาบตำรวจสกล นั้นจะมีอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก เป็น ลูกโม่ .38 มม.1กระบอก และ ขนาด 9 มม. (แม็กกาซีน) 2 กระบอก คาดว่าคนร้ายน่าจะนำติดไปด้วย
พ.ต.ท.หัสพล โพธิ์ทอง รอง ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายได้ขับรถะพาภรรยาไปทานข้าวที่บ้านคลองรั้ง โดยขับรถกระบะมาตามเส้นทาง กรอกสมบูรณ์ มุ่งหน้า คลองรั้ง พอผ่านไปสักพักทางภรรยาผู้ตายได้โทรหาหมวดรินที่เป็นเพื่อนกับผู้ตาย ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หลังจากที่ผู้ตายเดินลงจากรถไม่ทราบว่าไปดูอะไร ซึ่งทางหมวดรินได้สอบถามว่าอยู่ตรงไหนทางภรรยาผู้ตายได้แชร์พิกัดมาให้ จากนั้นทางหมวดริน ผู้เป็นเพื่อนได้เดินทางไปตรวจสอบที่ทางภรรยาผู้ตายแชร์โลเคชันมาให้ แต่ไม่พบใคร
หมวดริน ผู้เป็นเพื่อนได้โทรเข้าโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตอนแรกติดแต่ไม่มีผู้รับ สักพักมีการปิดเครื่องไปไม่สามารถที่จะโทรติดต่อได้ จนกระทั่งพบรถและร่างของผู้ตาย
พ.ต.ท.หัสพล เผยอีกว่า เบื้องต้นตนให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นเป็น ตำรวจ คาดว่าจะเป็นการฆาตกรรมอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่ลงมือฆาตกรรมในครั้งนี้ เกิดจากอะไร จะต้องตรวจสอบกันให้แน่ชัดและตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะตัดประเด็นอะไรออกได้
โดย ด.ต.สกล ตำรวจผู้เสียชีวิตนั้น เคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ สภ.ระเบาะไผ่ ก่อนที่จะขอย้ายกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาที่พื้นที่จังหวัดปราจีนนั้นคาดว่าน่าจะมาหาเพื่อนที่เป็นตำรวจด้วยกัน
อัพเดทล่าสุด รู้ตัวคนร้ายแล้ว
หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้คุมตัว ผู้เห็นเหตุการณ์ จำนวน 2 คนมาสอบปากคำ คือ นายธรรมรัตน์ และ นายพิชิตพงศ์ จนกระทั่งรู้ว่า มือยิงดาบตำรวจ คือ นายชัยวิชิต ขณะนี้กำลังหลบหนี
โดยทั้ง 2 คนเล่าว่า ในขณะที่ตนและนายชัยวิชิตกำลังซื้อน้ำมันอยู่บริเวณป่าริมถนน ด.ต.สกลพร้อมภรรยาได้เข้ามาที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น นายชัยวิชิตและ ด.ต.สกล ได้มีปากเสียงกันนายชัยวิชิตจึงใช้อาวุธปืน ยิง ด.ต.สกล และภรรยาจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งพร้อมกับรถ
ยกย่องดาบตำรวจสกล !
พ.ต.อ.สุรพล เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ เผยว่า กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นกรณีซึ่งหน้า ซึ่ง ด.ต.สกล ได้มาเยี่ยมเพื่อนตำรวจที่ สภ.ระเบาะไผ่ ใน และขอตัวแยกย้ายในช่วงก่อนเที่ยงเพื่อจะไปทานข้าว คาดว่า ด.ต.สกล จะไปพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการดูดน้ำมัน จึงได้แสดงตัวและให้ภรรยา ส่งพิกัดให้กับเพื่อนที่สนิทที่เป็นตำรวจด้วยกันใน สภ.ระเบาะไผ่ เนื่องจากในพื้นที่ของ สภ.ระเบาะไผ่นั้น การแจ้งพิกัดมีการคาดเคลื่อนทำให้จุดที่แจ้งนั้นห่างจากจุดพบศพประมาณ 3 กิโลเมตร โดยทางตนขอชื่นชม ด.ต.สกล ซึ่งมีสัญชาตญาณการเป็นตำรวจพบการกระทำผิดแม้ ไม่ใช่พื้นที่ของตนก็ยังปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอย่างดีเยี่ยม เบื้องต้นทางด้านชุดสืบสวนสอบสวนของ สภ.ระเบาะไผ่ ได้ทำการเชิญตัวพยานมาสอบสวน จึงได้ข้อมูลของกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อย
โดยในขณะนี้นั้น ตำรวจพอทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุและได้นำตัวมาสอบสวนเป็นที่เรียบร้อย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งตนขอยืนยันว่าด.ต.สกล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายน้ำมันเถื่อนหรือรับส่วยน้ำมัน ที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ อย่างแน่นอน เพราะว่า ด.ต.สกล นั้นได้ย้ายออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 ปีแล้ว
จากการตรวจสอบแหล่งที่รับซื้อน้ำมันนั้นอยู่ในพื้นที่ตรงข้าม กับที่เกิดเหตุ โดยการเข้าสังเกตการณ์พบ แทงค์จำนวน 1,000 ลิตร วางกองเรียงกันจำนวนมาก ภายในบริเวณ ที่พัก พร้อมกับอุปกรณ์ เครื่องสูบ ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก คาดว่าน่าจะเป็นจุด รับซื้อ จุดดูดน้ำมัน บริเวณนั้น
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน