“หนูน้อยเฮอร์คิวลีส” โตเป็นหนุ่มแล้ว ใช้ชีวิตแตกต่างไปจากเดิมมาก เล่าด้านมืดวัยเด็ก

หนูน้อยเฮอร์คิวลีส

หนูน้อยเฮอร์คิวลีส” โตเป็นหนุ่มแล้ว ใช้ชีวิตแตกต่างไปจากเดิมมาก เล่าด้านมืดวัยเด็ก

เรื่องราวสุดเศร้าของ “หนูน้อยเฮอร์คิวลิส” เด็กชายที่เคยถูกขนานนามว่าเป็น “เด็กที่แข็งแรงที่สุดในโลก” วันนี้เขากลับใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

ชายคนหนึ่งที่เคยถูกขนานนามว่า “เด็กที่แข็งแรงที่สุดในโลก” บัดนี้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาที่เป็นจุดสนใจของสื่อมากว่า 25 ปี 

ริชาร์ด แซนดรัก หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “หนูน้อยเฮอร์คิวลิส” ได้รับฉายานี้ตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ และเคยเป็นเด็กที่โดดเด่นที่สุดในโรงเรียนประถม แต่ปัจจุบันเขาได้เปิดใจเล่าถึงชีวิตในวัยเด็ก รวมถึงเรื่องราวในช่วงเวลานี้ของเขา

ชีวิตในวัยเด็กในฐานะ “หนูน้อยเฮอร์คิวลิส”

ตามรายงานของ New York Post  ริชาร์ด แซนดรัก เกิดที่ประเทศยูเครน โดยมีพ่อเป็นแชมป์ศิลปะการต่อสู้ชื่อว่า พาเวล แซนดรัก และแม่เป็นดาวเด่นด้านแอโรบิกชื่อว่า ลีนา แซนดรัก

เขาเริ่มยกน้ำหนักตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ และเมื่ออายุได้ 8 ปี ก็สามารถยกบาร์เบลแบบเบนช์เพรสได้มากถึง 3 เท่าของน้ำหนักตัวเอง

รูปร่างอันน่าทึ่งของเขาทำให้กลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน จนได้มีโอกาสพบปะกับคนดังระดับโลกอย่าง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ และลู เฟอร์ริญโญ

เขายังได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Tiny Tarzan และถูกเชิญไปออกรายการทีวีชื่อดังหลายรายการในช่วงไพรม์ไทม์

โปรแกรมฝึกอันเข้มข้น

ริชาร์ดต้องฝึกตามตารางที่เข้มงวดมากในแต่ละวัน ซึ่งรวมถึงการวิดพื้นและซิทอัพอย่างละ 600 ครั้ง และสควอตอีก 300 ครั้ง

เขาเล่าว่าพ่อบังคับให้เขาออกกำลังกายวันละสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง พร้อมควบคุมอาหารแบบนักกีฬา โดยเน้นอาหารที่สะอาดและไม่มีของปรุงแต่ง

เคยมีรายงานว่า ในช่วงหนึ่งเขามีไขมันในร่างกายเพียง 1% ซึ่งถือว่าต่ำอย่างอันตรายต่อสุขภาพ

ถูกล่วงละเมิดในวัยเด็ก

ริชาร์ดเล่าให้ Metro ฟังว่า “พ่อของผมมักจะโมโหรุนแรงเป็นพัก ๆ สิ่งที่เริ่มต้นจากการออกกำลังกายธรรมดา กลายเป็นการให้ผมเตะสามท่าต่อเนื่องแบบแยกขาทั้งวันนานถึง 12 ชั่วโมง”

“มีหลายครั้งที่ผมนับไม่ถ้วนเลย ที่การฝึกธรรมดา ๆ กลับกลายเป็นเหมือนสถานการณ์ตัวประกันแบบสุดโต่ง”

เขาเล่ารายละเอียดถึงสิ่งที่พ่อเคยบังคับให้ทำ เช่น การสควอตตลอดความยาวของภาพยนตร์ 1 เรื่อง แต่สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจคือพฤติกรรมที่พ่อใช้ความรุนแรงกับแม่

หลังจากเหตุการณ์รุนแรงครั้งหนึ่ง ริชาร์ดโทรแจ้งตำรวจ และในที่สุดพ่อของเขาก็ถูกเนรเทศกลับยูเครนจากสหรัฐอเมริกา

ริชาร์ด กล่าวว่า “พ่อของผมรุนแรงมาก ผมเรียนรู้ตั้งแต่เด็กว่าอย่าร้องขอให้หยุด คุณต้องกัดฟันแล้วทำตามที่สั่งต่อไป”

“วัยเด็กของผมมันสับสนมาก ผมไม่ค่อยมีความทรงจำที่ดีเลย จนกระทั่งหลังจากที่พ่อจากไป”

หนูน้อยเฮอร์คิวลีส

เลิกเล่นฟิตเนสและเผชิญปัญหาเรื่องสารเสพติด

ริชาร์ดตัดสินใจออกจากวงการเพาะกาย โดยบอกว่าสำหรับเขาแล้ว การยกน้ำหนัก “เหมือนกับเป็นอาการ PTSD อย่างหนึ่ง”

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า “มันเชื่อมโยงกับอดีตของผม ผมเหนื่อยกับการที่ทุกอย่างในชีวิตต้องผูกกับรูปร่างของตัวเอง”

เมื่ออายุ 16 เขาเริ่มหันไปสนใจกิจกรรมอื่น เช่น ยิมนาสติก ว่ายน้ำ และบาสเกตบอล อย่างไรก็ตาม ด้วยการเลี้ยงดูที่เคร่งครัด เขายอมรับว่า “แทบไม่มีทักษะทางสังคม และสื่อสารกับคนอื่นไม่เป็น”

เขายังต้องต่อสู้กับปัญหาแอลกอฮอล์ โดยเล่าว่า “ผมปาร์ตี้หนักมาก และไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมีเหล้าอยู่กับตัวเสมอ”

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันริชาร์ดได้เริ่มบำบัดการติดสุรา และสามารถเลิกดื่มได้มานานกว่า 1 ปีแล้ว

หนูน้อยเฮอร์คิวลีส

ชีวิตของริชาร์ดในปัจจุบัน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

แม้ในอดีตเขาจะเคยฝันอยากทำงานกับองค์การ NASA แต่ชีวิตของเขาในวันนี้กลับเต็มไปด้วยความสุข มากกว่าสมัยที่ต้องทนทุกข์ในวัยเด็กอย่างเทียบกันไม่ได้

ปัจจุบัน ริชาร์ดอาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิส กับแฟนสาวซึ่งเป็นทนายความ และแมวอีก 2 ตัว เขาทำงานเป็นผู้จัดการร้านค้าปลีก และยืนยันชัดเจนว่าเขาไม่คิดจะกลับไปติดต่อกับพ่ออีก

“ผมยังคงมีความโกรธฝังใจอยู่กับเขา คนชอบพูดกันว่า “ให้อภัยแล้วลืมมันไป” ผมอาจให้อภัยได้ แต่ผมจะไม่มีวันลืม” ริชาร์ด กล่าวทิ้งท้ายอย่างหนักแน่น

ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน