ห้าวไม่เลิก!! เขมรซ่าชี้หน้าทหารไทย บนปราสาทตาเมือน ขณะที่ท่าทีของทหารไทยส่งสัญญาณมือสุดอดกลั้น-ต้องช่วยห้ามปรามจบปัญหา
กองทัพบกแจงเขมรย้ายหมุดปราสาทตาเมือนธมใน Google Map ไม่มีผลด้านกฎหมาย ผู้ใช้งานที่พบการย้ายหมุดสามารถรายงานไปยังบริษัทผู้จัดทำขอให้แก้ไขข้อมูลได้ ยืนยันไทยใช้อำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมมาโดยตลอดและยึดโยงกับหลักฐานภูมิศาสตร์การบริหารพื้นที่ โดยหน่วยงานราชการไทยต่อเนื่อง ส่วน “ฮุน มาเนต” ขู่ไทยไม่มีสิทธิห้ามคนกัมพูชาเข้า 4 พื้นที่ ชี้เป็นการพูดปลุกเร้าสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวกัมพูชาเท่านั้น ด้านนักท่องเที่ยวไทยแห่ชมปราสาทตาเมือนธมต่อเนื่อง ไม่สนคำขู่ของฮุน มาเนต ว่อนโซเชียลคลิปทหารเขมรชี้หน้าทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม รมช.กลาโหมเผยเจรจากับเขมรดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังมีการต่อรองเรื่องเงื่อนไขที่ยังไม่ลงตัว
เขมรยังป่วนไทยไม่เลิก ล่าสุดทำพฤติกรรมสุดแสบ ย้ายหมุด “ปราสาทตาเมือนธม” ใน Google Map จากฝั่งไทยไปอยู่ในฝั่งกัมพูชา ขณะที่กองทัพบกยืนยันการย้ายหมุดของเขมรไม่มีผลทางกฎหมายทั้งระดับในประเทศและระหว่างประเทศ
ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเช้าวันที่ 2 ก.ค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า สถานการณ์ยังทรงอยู่ แต่เราได้ใช้กลไกในทุกระดับของกองทัพ ในการประสานงาน สิ่งที่กระทรวงกลาโหมคาดหวังคือกลไก GBC ส่วนระดับรัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศมีพูดคุยสัญญาณดีขึ้นเล็กน้อย เริ่มคุยด้วยจากก่อนหน้านี้ที่ไม่คุยเลย เมื่อถามว่า พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา มีท่าทีที่ดีขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า เขายอมคุยด้วยแต่ยังมีการต่อรองเรื่องเงื่อนไขที่ยังไม่ลงตัว เมื่อถามถึงเงื่อนไขคือการให้เราเปิดด่านก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ระหว่างการต่อรอง เรายังคงมาตรการเปิดด่านแบบจำกัดเวลา แต่ยืนยันว่าไม่ได้ปิดด่าน เพราะหากเราปิดจะไม่มีการผ่านเข้าออกเลย
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศ หรือไม่ หลังนายฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา เคลื่อนไหวนำ 3 ปราสาทและ 1 พื้นที่ขึ้นศาลระหว่างประเทศ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า พูดคุยกันตลอดในส่วนทีมไทยแลนด์ เป็นการแก้ ไขปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนงานระยะยาวเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงการต่างประเทศ ที่เดินหน้าอยู่ในงานที่จะต้องใช้ความประณีต มีเรื่องข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง การเตรียมการในเรื่องต่างๆ หากกัมพูชานำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่ศาลโลก ศบ.ทก.จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องนี้ แต่ทั้งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศและศบ.ทก. ต่างฝ่ายต่างรับทราบการทำงานซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสไปทำความเข้าใจกับคนในกองทัพหรือไม่ เพราะสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มี รมว.กลาโหม ในขณะที่นายกฯถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ณัฐพลระบุว่า ในส่วนของตนที่ประชุม ครม.แจ้งให้ทราบว่า สามารถรักษาการ รมว.กลาโหมได้ทันที โดยให้ยึด พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 มาตรา 24 ความรับผิดชอบจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.ค. หากมีอะไรเสียหายก็อยู่ในความรับผิดชอบของตน ขอยืนยันกับประชาชนว่า งานด้านความมั่นคงในทุกด้านจะไม่เกิดสุญญากาศ ยังคงเดินหน้าต่อไป ขอบคุณนายกฯที่ให้ความเชื่อมั่น ไม่รู้สึกกดดัน ภาระงานยังคงเหมือนเดิม
ที่ทำเนียบรัฐบาล เที่ยงวันเดียวกัน พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุมว่า กลไกการทำงานของ ศบ.ทก.ยังยึดมั่นคติประจำศูนย์คือรอบคอบ รอบด้าน ใช้สติ สร้างสันติ เราเป็นทีมไทยแลนด์ที่นำมติของสภาความมั่น คงแห่งชาติ (สมช.) ไปแปลงโดยกองกำลังป้องกันชายแดนในพื้นที่เป็นผู้ปฏิบัติ ยึดมั่นการทำงานแบบนี้มาตลอด ถึงแม้ช่วงนี้ที่ปรับเปลี่ยน ครม. ศบ.ทก.ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องไม่หยุดในการแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศบ.ทก.มีอำนาจในการพิจารณาและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงนี้ที่มีการปรับเปลี่ยน ครม.
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบ การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมที่ยังเป็นไปตามท่าทีเดิม คือเรื่องความตึงเครียดและปัญหาชายแดน ควรรับการแก้ไขตามกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ระหว่างกันทั้งสองฝ่าย โดยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ที่จะประชุมร่วมกันในเดือน ก.ย. รวมไปถึงกลไกอื่นๆ ทั้งคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) คณะกรรมการส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ตลอดจนทวิภาคีอื่นๆ ท่าทีนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงในหลายๆประเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจะแถลงในวันที่ 3 ก.ค.
อีกด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา เตือนไทยระวังมีปัญหากับกัมพูชา หากกล้าล้ำเส้นแดง ปิดกั้นไม่ให้ชาวกัมพูชาเข้าพื้นที่ 4 พื้นที่ ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควายและสามเหลี่ยมมรกต ว่า เท่าที่ได้ติดตามข่าวอาจเป็นการพูดในลักษณะปลุกเร้าความเชื่อมั่น ให้ประชาชนที่มาร่วมในงานพิธีการแห่งหนึ่งเป็นการภายในของประเทศกัมพูชา อาจไม่ได้พูดเพื่อมีเจตนาสื่อสารในทำนองข่มขู่ยั่วยุตรงมาที่ฝ่ายไทย กองทัพบกยืนยันว่าการมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อยู่ภายใต้ข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไว้ ปัจจุบันยังไม่มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบ ทำให้ฝ่ายไทยต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผิดไปจากสิ่งที่เคยได้ตกลงกันไว้
ส่วนกรณีสื่อสังคมออนไลน์พบการย้ายหมุด และแนวเส้นสมมติฐานเขตแดนบริเวณปราสาทตาเมือนธม ในแอปพลิเคชัน Google Map จากฝั่งประเทศไทยไปอยู่ยังฝั่งกัมพูชาและกังวลว่าเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อนำไปอ้างอิงฟ้องสื่อต่างชาติและศาลโลก รวมทั้งทำให้ประชาชนบางส่วนเข้าใจผิดว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในดินแดนกัมพูชา ไทยต้องการรุกรานดินแดนกัมพูชาและยึดปราสาทตาเมือนธม
พล.ต.วินธัยกล่าวว่า การกำหนดสถานที่และเส้นเขตแดนในแอปพลิเคชัน Google Earth และ Google Map บริษัทได้ใช้ข้อมูลจากภาคเอกชน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์เพื่อการเดินทาง ในหลายจุดจะพบเห็นความคลาดเคลื่อนจากสถานที่จริงอยู่บ้าง โดยเฉพาะเส้นสมมติฐานเขตแดน ที่สำคัญข้อมูลของแอปพลิเคชันดังกล่าวจะไม่มีผลทางด้านกฎหมาย ทั้งในระดับในประเทศและในระดับระหว่างประเทศ ในส่วนที่มีข้อมูลที่ผิดพลาดในแอปพลิเคชัน ผู้ใช้งานสามารถรายงานไปยังบริษัทขอให้แก้ไขข้อมูลได้ ขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายไทยใช้อำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมมาโดยตลอด เป็นข้อเท็จจริงที่ยึดโยงกับหลักฐานภูมิศาสตร์และการบริหารพื้นที่ โดยหน่วยงานราชการไทยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตลอดทั้งวันที่ 2 ก.ค. มีประชาชนชาวไทย เดินทางมามอบสิ่งของให้กำลังใจ จนท.ทหาร ที่ดูแลปราสาทตาเมือนธม อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งถือโอกาสเดินเที่ยวชมตัวปราสาทอย่างคึกคัก ท่ามกลางกระแสข่าวฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาขู่ไทยอย่าล้ำเส้นแดง ปิดกั้นห้ามไม่ให้คนกัมพูชาเข้าพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย หากปิดมีเรื่องแน่ โดยนักท่องเที่ยวไทยยังคงเดินเที่ยวชมตัวปราสาทไม่สนใจในกระแสข่าวดังกล่าว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของทหารไทยอย่างใกล้ชิด ขณะที่พบทหารกัมพูชายังเดินขึ้นมาสังเกตุการณ์ที่ตัวปราสาทตาเมือนธมเช่นกัน ส่วนชาวกัมพูชาพบว่าข้ามแดนขึ้นมาเที่ยวน้อยลง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 2 ก.ค. โลก โซเชียลมีการแชร์คลิปวิดีโอการทะเลาะมีปากเสียงกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม โดยพบว่าทหารกัมพูชายืนชี้หน้าทหารไทยพร้อมพูดภาษาเขมรแปลได้ว่า “พูดกันว่าอะไร” และมีทหารไทยนายหนึ่งพูดว่า “คุยกับนักท่องเที่ยวอยู่ จะขึ้นเสียงอย่างเดียวเลย” ก่อนที่ทหารทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันห้ามปรามและแยกย้ายจากกันด้วยดี
ขณะที่เรื่องมันสำปะหลังที่มีการสั่งห้ามนำเข้าจากกัมพูชาอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังของไทย โดยเฉพาะในเขตภาคอีสานต่างดีใจ เพราะช่วงที่ผ่านมา ราคามันสำปะหลังจากราคา กก.ละ 3.50 บาท หรือตันละ 3,500 บาท ตกลงมาเหลือกก.ละ 1.20 บาทหรือตันละ 1,200 บาท เนื่องจากมีการนำเข้ามันสำปะหลัง จนมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะเจ้าของโรงแป้งมันหลายโรงในเขตภาคอีสานที่เป็นของตระกูลดัง เป็นเครือญาติของรัฐมนตรีในชุดนี้ จึงมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ทำให้ราคามันสำปะหลังในประเทศตกต่ำจนเกษตรกรเดือดร้อน
นายสมพร ฉิมพลี อายุ 58 ปี เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง อยู่ที่ อ.ละหานทราย เล่าว่า เช่าที่ปลูกไร่มัน 19 ไร่ ตอนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขายมันมีกำไรเพราะราคาสูงถึงตันละ 3,500 บาท แต่ตอนนี้เหลือตันละ 1,200 บาท หรือต่ำกว่าเกินครึ่ง ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนเพราะขาดทุน ตนทำอาชีพนี้มานานกว่า 20 ปี หากมันฯราคาสูงก็โชคดีไป แต่หากราคาร่วงก็ขาดทุนยับเยิน จึงอยากให้รัฐบาลชุดไหนก็ตามที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ยังคงมาตรการไว้เหมือนเดิมคือการห้ามนำเข้ามันสำปะหลัง จนกว่าผลผลิตในประเทศจะขาดแคลน
วันเดียวกัน กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยกองร้อยหารพรานนาวิกโยธินที่ 524 (บ้านแหลม) ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน อำนวยความสะดวกการผ่านแดนให้กับนายนวน พร อายุ 74 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉิน มีบาดแผลอักเสบที่เข่าขวาติดเชื้อขั้นรุนแรง มีผู้ร่วมเดินทาง 2 คน ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อเดินทางไปรับการตรวจรักษาที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี อ.เมืองจันทบุรี การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ด้วยความร่วมมืออันดีของหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรีและหน่วยประสานงานชายแดน กัมพูชา-ไทย ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เพื่อนบ้านในยามคับขัน
