เพื่อนบ้านเผยพฤติกรรม “แม่ทำร้ายลูก 3 ขวบ” ในร้านอาหาร ไม่ค่อยสุงสิงและไม่ถูกกับใคร ลูกชายอีกคนจะร้องไห้ทันที หากบอกว่าจะพาไปหาแม่
จากกรณี นางสาวบี (นามสมมติ) วัย 32 ปี ชาวอำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น ทำร้ายร่างกายลูกสาววัยสามขวบครึ่งในร้านแจ่วฮ้อน จนมีคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่ตรวจสอบและแยกลูกสาววัยสามขวบครึ่ง มาดูแลบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวของนางสาวบี ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (แม่ถีบลูก 3 ขวบ เทน้ำราดหัวในร้านอาหาร โมโหพูดไม่ฟัง พม.รับตัวเด็กดูแลต่อ)
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านพี่สาวของนางสาวบี โดยได้พบกับนางวันเพ็ญ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ญาติของนางสาวบี ซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูน้องเอ็ม (นามสมมติ) ลูกชายวัย 8 ขวบ อีกคนของนางสาวบี ที่มาฝากพี่สาวตัวเองเลี้ยงเมื่อช่วงต้นปี 2568 แต่พี่สาวต้องทำงานที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จ้างนางวันเพ็ญเป็นคนเลี้ยงดู ให้เงินเดือน เดือนละ 5,000 บาท พร้อมกับซื้อข้าวสารอาหารแห้ง และข้าวของเครื่องใช้จำเป็นมาไว้ให้นางวันเพ็ญใช้และได้หุงหากับข้าวเลี้ยงดูน้องเอ็มที่บ้านหลังนี้ ซึ่งอาศัยอยู่กันเพียงสองคน และมีให้เงินพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ให้ด้วย แม่ทำร้ายลูก 3 ขวบ
โดยนางวันเพ็ญ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมารับจ้างเลี้ยงน้องเอ็มได้สามเดือนแล้ว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่เรื่องของบีนั้น ตนเองไม่ทราบเพราะเป็นคนบ้านอื่น โดยตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ตนเองเลี้ยงน้องเอ็มนั้น น้องเอ็มก็จะบ่นคิดถึงน้อง บางครั้งก็บ่นคิดถึงแม่ แต่จะถามหาน้องมากกว่า และบางครั้งบีก็จะขับรถเก๋งมารับเอ็มออกไปเที่ยวที่ต่างอำเภอ แล้วก็พากลับมาส่งที่บ้าน แต่จะไม่ได้เข้ามาภายในบ้าน
วันเกิดน้องเอ็มวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มา และสิ้นเดือนหน้า พี่สาวของนางสาวบี ก็จะมาที่ขอนแก่นและจะพาเอ็มไปหาน้อง ซึ่งเอ็มก็ตั้งหน้าตั้งตารอเพราะคิดถึงน้อง ส่วนตัวไม่ค่อยสนิทกับบี บีกับพี่สาวจ้างก็มาเลี้ยง ส่วนนิสัยของเอ็มก็ซนตามประสาเด็กทั่วไป ปั่นจักรยานไปเล่นนู่นบ้างไปเล่นนี่บ้างซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของเด็ก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองเห็นจากข่าวก็รู้สึกสงสารเด็ก ทำใจไม่ได้ที่เห็นเหตุการณ์แบบนี้ แต่ก็สุดแล้วครอบครัวเด็กจะจัดการ ถ้าถามถึงว่าบีรักลูกไหม เมื่อก่อนก็รักลูกดีอยู่ แต่ก็ไม่รู้เป็นไงมาไงถึงเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ถ้าจะถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของบีไม่ให้ทำร้ายลูกได้หรือไม่นั้น ตนเองก็ตอบไม่ได้
พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางไสว แคนสิงห์ อายุ 70 ปี ชาว ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เพื่อนบ้านที่อยู่หลังติดกัน และก็เป็นคนเลี้ยงน้องเอ็มอีกคนหนึ่ง เมื่อช่วงเดือนมกราคม เป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อนพี่นางวันเพ็ญจะมาเลี้ยงต่อ โดยพี่สาวของบีเป็นคนจ้าง 5,000 บาท ในการเลี้ยงดูน้องเอ็มเช่นกัน
นางไสวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงที่บีเอาลูกชายมาฝากพี่สาวเลี้ยงที่นี่ เป็นช่วงที่เอ็มกำลังเรียนหนังสืออยู่ ไม่มีคนดูแลจึงมาจ้างตนเอง ช่วงที่ตนเองเลี้ยงน้องเอ็มนั้น บีจะขับรถเก๋งมาจอดอยู่ห่างออกไปจากหน้าบ้าน เพื่อมารับลูกชายไปเที่ยวกับลูกสาว เท่าที่ตนเองเห็นก็มีประมาณสองครั้ง ปกติบีจะเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร ไม่มีใครพูดด้วยได้ และไม่ถูกกับใคร เมื่อก่อนตอนที่บียังอยู่ที่บ้านหลังนี้ หากเห็นใครปลูกผักข้างบ้าน ก็จะบอกให้ถอนออกทันที จนทุกคนไม่มีใครอยากคุยด้วย
ในเรื่องการตีลูกหากเด็กๆ ออกมาเที่ยวเล่นนอกบ้าน ก็จะตามไปอาละวาดตีลูกถึงที่ เพื่อพากลับ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเห็นจากในข่าว ส่วนตัวไม่เคยเห็นเอง เห็นก็เฉพาะบีพาลูกไปกินข้าวร้านนั้นร้านนี้ และก็ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าบีตีลูกกลางตลาด ชาวบ้านก็พาลูกไปส่งตำรวจที่โรงพัก บีก็ไปเถียงอาละวาดใส่ตำรวจ แม้แต่ยายแท้ๆ ที่มาจากโคราช ก็ยังโดนบีด่าว่ามาทำไมอีแก่ ส่วนความสัมพันธ์ของบีกับเอ็ม หากบอกว่าจะพาเอ็มไปหาบี เอ็มจะร้องไห้ไม่อยากไปทันที กลายเป็นกลัวผวาไปเลย แต่จะคิดถึงน้องสาวอยากไปเล่นกับน้องสาว ซึ่งพี่น้องคู่นี้สนิทและรักกันดี ส่วนน้องสาวก็อยากมาหาพี่เหมือนกัน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับน้องเอ็ม โดยน้องเอ็มเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ถูกแม่ตีเพราะน้องทำทองของแม่หาย ตอนที่แม่ตี ก็รู้สึกโกรธ พอมาอยู่กับป้าแล้วก็ไม่อยากไปหาแม่ แต่อยากไปหาน้องสาว และอยากให้ป้าพาน้องสาวมาอยู่ด้วย คิดถึงน้องสาวแต่ไม่คิดถึงแม่เลย เพราะแม่ตี.
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน
