ไม่ยอมแพ้! สาวจีนใจเด็ด
หลีไห่อวี๋ สาวใหญ่วัย 47 ปี ซึ่งมีบ้านเดิมอยู่ในมณฑลหูหนาน กลายเป็นข่าวดัง เมื่อเธอใช้เวลาเกือบ 3 ทศวรรษ ในการติดตามหาตัวฆาตกรที่เป็นผู้ลักพาตัวและฆ่าน้องชายของเธอ เพื่อแก้แค้นพ่อของเธอ
เรื่องราวการแก้แค้นอันน่าสลดใจนี้ เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2535 เมื่อพ่อของหลีและชายอีกคนหนึ่ง ทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องค่าจ้าง จนถึงขั้นแตกหัก ชายคู่กรณีตัดสินใจแก้แค้นพ่อของหลี ด้วยการลักพาตัว หลีฮวนผิง ลูกชายวัย 9 ขวบของเขาตอนเลิกเรียน
หลังจากที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุและเร่งค้นหาตัวทั้งเด็กชายและผู้ลักพาตัวในบริเวณรอบหมู่บ้านของพวกเขาในมณฑลหูหนาน เจ้าหน้าที่ก็พบเสื้อผ้าของหลีฮวนผิง ที่บริเวณชายหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง แต่กว่าจะพบศพของเด็กชาย ก็ต้องรอจนถึงเดือน ก.พ. ของปีถัดมา ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ผู้ต้องสงสัยก็หายตัวไปแล้ว
รายงานของตำรวจสรุปว่า เด็กชายโดนแทงจนเสียชีวิตและทิ้งศพไว้ในไร่อ้อยแห่งหนึ่ง แต่พ่อของเขาไม่ได้บอกภรรยาและลูกสาวทั้ง 5 คน เขาปล่อยให้ทุกคนคิดเพียงว่า เด็กชายโดนลักพาตัวไปเท่านั้น จนกระทั่งถึงวันตายของเขา จึงยอมบอกความจริง
สำนักข่าวเสี่ยวเซียง มอร์นิงนิวส์ รายงานว่า หลีเริ่มออกตามหาน้องชายของเธอตั้งแต่ปี 2540 เธอรู้แค่ว่า น้องชายของเธอถูกลักพาตัว จึงออกเดินทางเพื่อตามหาตามที่ต่าง ๆ จากมณฑลยูนนาน เสฉวน กุ้ยโจว ไปจนถึงกวางสี หลีต้องทนลำบากมากมาย และโดนหลอกจากคนที่ต้องการหาประโยชน์จากเธอ รวมทั้งเกือบจะโดนลักพาตัวไปด้วยอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยหมดหวัง
ในปี 2557 เมื่อพ่อของเธอฆ่าตัวตาย โดยทิ้งข้อความไว้ให้ครอบครัว หลีจึงได้รู้ความจริงว่าน้องชายของเธอเสียชีวิตไปแล้ว พ่อของเธอเขียนว่า เขาไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฆาตกรของลูกชาย แต่หลังจากตามหามาหลายปีโดยไร้ผล เขาก็ทนลืมตาตื่นขึ้นมาทุกวันไม่ได้อีกต่อไป
ตอนแรก หลีนึกโกรธที่พ่อหลอกลวงเธอและคนในครอบครัว แต่ต่อมาก็เข้าใจความปรารถนาของเขา ที่ต้องการปกป้องพวกเธอจากความจริงที่ว่า น้องชายของเธอเสียชีวิตอย่างโหดร้าย หลีจึงตัดสินใจตามหาฆาตกรต่อไป
ในจดหมายสั่งเสียของพ่อของหลี เขาได้เปิดเผยชื่อของฆาตกรที่ฆ่าน้องชายของเธอว่าคือ อี้โหมวชิง รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ เช่น บ้านเกิดของเขา, รายละเอียดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเขา หลีจึงย้ายไปอยู่ที่เมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ตามเบาะแสที่พ่อทิ้งไว้ เธอเฝ้ารอและตามหาจนกระทั่งพบคนที่ตรงกับข้อมูลของอี้
สำนักข่าวต้าว่าน รายงานว่า หลีเจอตัวอี้ และเริ่มเข้าหาชายคนนี้ โดยอ้างว่า ตัวเองกำลังมองหางานทำ จนกระทั่งได้รู้ชื่อของเขาในปัจจุบัน ซึ่งเขาใช้ชื่อว่าอี้โหมวฮวา ซึ่งใกล้เคียงกับชื่อเดิมจนน่าสงสัย แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นเบาะแสที่มีมูลมากพอจะแจ้งให้ทางการทราบ ดังนั้น หลีจึงตัดสินใจติดต่อกับอี้ต่อไป เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
แม้จะรู้สึกสะอิดสะเอียน แต่หลีก็ยอมทำเป็นมิตรกับฆาตกรที่ฆ่าน้องชายตัวเอง เธอใช้เวลาถึง 3 ปี ในการพูดคุยติดต่อกับอี้ เพื่อล้วงข้อมูลและทำให้เขาไว้วางใจ จนกระทั่งสบโอกาส เธอจึงแกล้งถามว่าเขาชื่ออะไรกันแน่ ระหว่าง อี้โหมวชิงกับอี้โหมวฮวา เพราะได้ยินคนเรียกเขาทั้งสองชื่อ ซึ่งเขาก็ตอบเธอไปโดยไม่ใส่ใจว่า เป็นชื่อของเขาทั้งคู่ เพียงแต่ชื่ออี้โหมวชิง เป็นชื่อที่เขาใช้ตอนเด็ก ๆ เท่านั้น
หลีตื่นเต้นมากที่ได้ยินฆาตกรของน้องชายยอมรับจากปากตัวเอง แต่เธอก็เก็บงำความรู้สึกไว้เพราะกลัวเขาจะสงสัย หลังจากนั้น เธอจึงติดต่อตำรวจและร่วมทางไปกับเจ้าหน้าที่ เพื่อจับกุมคนที่ฆ่าน้องชายจของเธอ เพื่อให้เขาได้รับรู้ว่าใครคือคนที่วางแผนจนสามารถทำให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวเขาได้
อี้โดนจับกุมในปี 2563 แต่ในตอนนั้น ศาลชี้ว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะตัดสินให้ผู้ต้องสงสัยมีความผิด ต่อมาในเดือน พ.ย. 2565 สำนักงานอัยการประชาชนได้ยกเลิกคำตัดสินดังกล่าว และเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อี้ก็ต้องขึ้นศาลอีกครั้ง ในฐานะผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมหลีฮวนผิง
ในที่สุด อี้ก็ยอมรับว่า ใช้ผลแอปเปิลล่อลวงน้องชายของหลีไปในวันก่อเหตุเมื่อปี 2535 แต่หลีซึ่งใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตไล่ตามเขาไปทั่วประเทศจีน คิดว่าท่าทางของเขาต่อหน้าศาลนั้น ดูยโสโอหัง เธอให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า “ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้พิพากษา ไม่ใช่ศาลเป็นผู้ตัดสินเขา” และเสริมว่าเธอหวังว่าอี้จะได้รับโทษประหารชีวิต
ตอนนี้ หลีกำลังวางแผนที่จะนำร่างของน้องชายของเธอกลับคืนสู่บ้านเกิดของเธอ เพื่อที่เขาจะได้พักผ่อนอย่างสงบในที่สุด
ติดตามข่าวสาร ข่าวเด็ด ประเด็นร้อน ที่นี่ 👉 ข่าวเด็ดประจำวัน